งานหนักเกินคร่าชีวิตแพทย์เกาหลีใต้
พิธีศพที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ของนพ.ยุนฮันดอก ซึ่งเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายในที่ทำงาน และ การจากไปของเขาชี้ให้เห็นถึงสภาพการทำงานที่หนักหนาสาหัสที่แพทย์ฉุกเฉินในเกาหลีใต้ต้องประสบตลอดมา
นพ.ยุน วัย 51 ปี ซึ่งเป็นผอ.ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ช่วงเทศกาลวันหยุดตรุษจีน เชื่อว่านพ.ยุน ซึ่งมักจะทำงานตลอดทั้งคืนอยู่เป็นประจำ เสียชีวิตจากการทำงานหนักเกินไป โดยสาเหตุการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการคือภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
แขกกว่า 300 คน ซึ่งมีทั้งสมาชิกในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เพื่อน และประชาชนชาวเกาหลีใต้ต่างมารวมตัวกันที่ศูนย์การแพทย์แห่งชาติเมื่อเช้าวันที่ 10 ก.พ. เพื่อเข้าร่วมพิธีศพ โดยเพื่อนร่วมงานให้คำมั่นที่จะสานต่องานของเขาในการให้บริการทางการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศต่อไป
นพ.อีกุกจอง เพื่อนของนพ.ยุน ปัจจุบันเป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมหัวใจที่ศูนย์บริบาลผู้บาดเจ็บของรพ.มหาวิทยาลัยอาจู เปรียบเทียบนพ.ยุนว่าเป็นเหมือน Atlas รูปปั้นจากเทพนิยายกรีกซึ่งแบกน้ำหนักโลกไว้บนบ่าของเขา “ ไม่ว่าสภาพการเป็นแพทย์ฉุกเฉินจะทำลายชีวิตเขามากแค่ไหน แต่เขาก็ทุ่มเททำงานเพื่อความยุติธรรมที่ว่า ระบบแพทย์ฉุกเฉินไม่อาจถูกทอดทิ้งได้ ” นพ.อีกล่าว โดยตัวเขาเองกลายเป็นข่าวดังในปี 2560 เมื่อเขาสามารถช่วยชีวิตชาวเกาหลีเหนือที่ถูกยิงระหว่างหลบหนีข้ามเข้ามาในเขตปลอดทหาร
การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของนพ.ยุนเหมือนมีสปอตไลท์สาดส่องให้เห็นสภาพการทำงานหนักเกินไปของทีมแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบสาธารณสุขของเกาหลีใต้ โดยแพทย์ส่วนใหญ่มักเลี่ยงที่จะมาทำงานที่แผนกฉุกเฉินเนื่องจากงานหนักมากและค่าตอบแทนน้อย
นพ.ยุนเข้าทำงานในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินในปี 2545 และขึ้นเป็นผอ.ของสถาบันในปี 2555 โดยศูนย์นี้กำกับดูแล 17 ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินทั่วประเทศ
ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีที่แล้ว มีรายงานว่ามีผู้ป่วยฉุกเฉินทั่วประเทศกว่า 28,000 ราย มากกว่าจะจำนวนผู้ป่วยโดยเฉลี่ยต่อวันถึงสองเท่า โดยก่อนหน้าช่วงเทศกาลชูซ็อก (เทศกาลขอบคุณพระเจ้าของเกาหลีใต้) ในเดือนก.ย.60 นพ.ยุนเคยโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า “ วันหยุด 10 วัน ! นี่เป็นหายนะของห้องฉุกเฉิน”
นพ.ยุนได้รับการยกย่องจากความพยายามของเขาที่จะปรับปรุงระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศ เขาโน้มน้าวให้ส.ส.จัดตั้งกองทุนงบประมาณเพื่อให้มีบริการแพทย์ฉุกเฉินทางอากาศในปี 2554 และก่อตั้งศูนย์บริบาลผู้บาดเจ็บทั่วประเทศ จากความพยายามของเขา ทำให้เกาหลีใต้สามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บลงจาก 35.2% ในปี 2553 ลงมาอยู่ที่ 30.5% ในปี 2558 โดยรัฐบาลตั้งเป้าให้ตัวเลขลดลงเหลือ 23% ภายในปี 2565
ประชาชนชาวเกาหลีใต้ นักการเมืองและรัฐบาลต่างแสดงความอาลัยกับการจากไปของนพ.ยุนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีมุนแจอินโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า เขาเสียใจและสำนึกบุญคุณนพ.ยุน เพราะเขาเป็นแพทย์ที่เห็นแก่ชีวิตคนอื่นก่อนตัวเขาและครอบครัว ทางรัฐบาลกำลังพิจารณาที่จะประกาศให้เขาเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่าของชาติ.