มาครงชี้ญี่ปุ่นขังกอส์นนานเกิน
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศสบอกกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแห่งญี่ปุ่นว่า เขากังวลเกี่ยวกับสภาพของคาร์ลอส กอส์นที่ถูกคุมขังในเรือนจำ นับเป็นความเห็นที่รุนแรงที่สุดของเขาเกี่ยวกับยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์ และข่าวฉาวที่เขย่าพันธมิตรเรโนลต์กับนิสสัน
“ ที่ผมจะพูดคือผมรู้สึกว่าการคุมขังเขานานเกินไปและลำบากเกินไป ผมบอกกับนายกฯ อาเบะแบบนั้น” ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงไคโร อียิปต์ โดยอ้างถึงการพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกฯอาเบะเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา “ ผมแค่กังวลว่ากรณีของพลเมืองฝรั่งเศสควรมีการให้เกียรติตามความเหมาะสมขั้นพื้นฐาน ”
ความเห็นของประธานาธิบดีมาครงมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากกอส์นลงจากตำแหน่งประธานและซีอีโอของบริษัทเรโนลต์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส และสองเดือนหลังจากนิสสันปลดเขาออกจากตำแหน่งประธานบริษัท ซึ่งทำให้มีความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงด้านการเป็นหุ้นส่วนกันในอนาคตมากขึ้น
ขณะที่ทางเรโนลต์ประกาศชื่อ Jean – Dominique Senard ซีอีโอของบริษัทมิชลินเป็นประธานบริษัทเมื่อสัปดาห์ก่อน มาครงชี้แนะว่าเขาควรได้เป็นประธานของนิสสันด้วยเพื่อช่วยบริหารจัดการกลุ่มบริษัทพันธมิตร
จากความเห็นของเขาเกี่ยวกับคดีนี้ที่ออกสู่สาธารณะ มีความเสี่ยงที่มาครงจะถูกมองว่าเขาแทรกแซงระบบยุติธรรมของญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขานุการคณะรัฐมนตรีระบุเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ว่า มีกระบวนการเป็นขั้นเป็นตอนหลังจากกอส์นถูกควบคุมตัวและถูกสอบสวน
“ มีการดำเนินการโดยหน่วยงานสอบสวนที่เป็นอิสระ ด้วยกระบวนการที่ถูกต้องเหมาะสม การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด รวมถึงการตัดสินของศาล ” ซูกะกล่าว
เขายังระบุว่า ทั้งสองบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ควรตัดสินใจว่าใครควรเป็นประธานของนิสสัน โดยหนุนแนวคิดให้รัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องในการพูดคุย
โดยกอส์นถูกคุมขังตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 2561 ตั้งแต่เขาถูกจับกุมตัวที่ท่าอากาศยานฮาเนะดะในกรุงโตเกียว มีการตั้งข้อหาเขาว่าแจ้งรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริงที่นิสสัน และโอนการขาดทุนทางการค้าส่วนตัวให้เป็นของบริษัท
เขาถูกศาลปฏิเสธไม่ให้ประกันตัวหลายครั้ง หลังจากอัยการโต้แย้งว่า มีความเสี่ยงที่เขาจะหลบหนี ขณะที่ทนายของเขาระบุว่าเขาอาจถูกคุมขังนานถึง 6 เดือนกว่าจะมีการไต่สวน โดยกอส์นปฏิเสธทุกข้อหา
การที่มาครงเข้ามาเกี่ยวข้องในประเด็นของสองบริษัทในคดีนี้ก็เพราะอำนาจของรัฐบาลฝรั่งเศสที่มีเหนือเรโนลต์
โดยรัฐบาลถือหุ้น 15% ในเรโนลต์ด้วยสิทธิโหวตพิเศษ ขณะที่เรโนลต์มีหุ้นประมาณ 45% ในนิสสัน พร้อมสิทธิในการในการออกเสียงโหวต ทำให้ผู้นำฝรั่งเศสไม่ได้พูดตรงๆถึงการตัดสินใจซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น
นิสสันมีหุ้น 15%ในเรโนลต์แต่ไม่มีสิทธิในการโหวต และได้แต่งตั้ง Thierry Bollore เป็นซีอีโอ
ขณะที่ทั้งสองบริษัทกล่าวย้ำว่า จะคงการเป็นหุ้นส่วนต่อไป นิสสันไม่พอใจที่บทบาทของเรโนลต์มีมากเกินไปในกลุ่มพันธมิตร ขณะที่สมาชิกลำดับ 3 คือมิตซูบิชิ
“ เราจะมุ่งมั่นคงเสถียรภาพของกลุ่มไว้” มาครงกล่าว
แหล่งข่าวระบุว่า ในสัปดาห์นี้ ผู้บริหารกลุ่มพันธมิตร เรโนลต์-นิสสันจะประชุมกันที่อัมสเตอร์ดัม ในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานบริหารจัดการหุ้นส่วน นับเป็นการประชุมครั้งแรกตั้งแต่กอส์นออกไป
มาครงมีประวัติศาสตร์กับเรโนลต์ เขาปกป้องการเพิ่มหุ้นในเรโนลต์เมื่อปี 2558 ซึ่งในเวลานั้น เขาเป็นรมว.เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เขย่านิสสัน
“ ผมพอใจที่ได้แทรกแซง เพราะผมรู้สึกว่ากอส์นถูกระบบญี่ปุ่นครอบงำเกินไป ”