ยุติชัทดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ แต่ยังน่ากังวล
ไม่กี่นาที่หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศยุติการชัทดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ( ซึ่งเป็นการชัทดาวน์ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ) เมื่อวันที่ 25 ม.ค. โทรศัพท์ของ Yvette Hicks ก็เริ่มดังขึ้น
“ มีเจ้าหนี้โทรหาฉันตลอดเวลา ทวงฉันว่าเมื่อไรจะเริ่มจ่ายหนี้ ” เธอกล่าว โดยเล่าให้สื่อฟังถึงความตื่นเต้นดีใจหลังคำประกาศที่เปลี่ยนเป็นความกังวลอีกครั้ง
Hicks ในวัย 40 ปี เป็นรปภ.ประจำ Smitsonian National Air and Space Museum ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานนับพันแห่งของรัฐบาลกลางซึ่งคาดว่าจะไม่ได้รับค่าจ้างจากช่วงชัทดาวน์ 35 วัน และยังคงมีความเสี่ยงหากประธานาธิบดีทรัมป์และส.ส.ไม่อาจทำข้อตกลงร่วมกัน หลังจากมีดีล 3 สัปดาห์ในปัจจุบันเพื่อเปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลอีกครั้งไปจนถึงวันที่ 15 ก.พ.
ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งต้องการให้ส.ส.พรรคเดโมแครตอนุมัติให้งบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ก่อนที่เขาจะตกลงเปิดทำการรัฐบาลอีกครั้ง ด้วยการลงนามในกฎหมายรับรองการจ่ายเงินค่าจ้างให้เจ้าหน้าที่และลูกจ้างรัฐบาลกลางที่ได้รับผลกระทบจากการชัทดาวน์
อย่างไรก็ตาม ดีลนี้ไม่รวมถึงผู้รับเหมา ทำให้หลายคนกังวลว่าจะไม่สามารถจ่ายหนี้ได้
หากไม่ได้ค่าจ้าง Hicks ต้องเริ่มขอสวัสดิการค่ายารักษาโรคหอบหืดของลูกๆเธอ ทบทวนการจ่ายค่าประกันชีวิต และสวดภาวนาทุกวันไม่ให้ครอบครัวของเธอต้องกลายเป็นคนไร้บ้านอีกครั้ง
“ ฉันสัญญากับลูกๆว่า เราจะไม่กลับไปทุกข์ทรมานแบบนั้นอีก” เธอกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่บ้านของเธอในวันที่ 25 ม.ค. เธอร้องไห้เมื่อย้อนนึกถึงช่วงเวลาหลายปีที่เธอและลูกทั้ง 4 คนต้องใช้ชีวิตแบบคนไร้บ้าน
ยังไม่มีความชัดเจนว่ามีลูกจ้างจากสัญญาจ้างเหมาบริการที่ทำงานกับรัฐบาลกลางทั้งหมดกี่คน แม้หลายคนจะประเมินว่ามีหลายล้านคนก็ตาม
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจากหน่วยงาน Service Employee International Union Local 32BJ ซึ่งเป็นตัวแทนของ Hicks และพนักงานจ้างเหมาบริการเกือบ 700 คน ส่วนใหญ่เป็นรปภ.และนักการภารโรงในวอชิงตัน ระบุว่า คนกลุ่มนี้ได้รับค่าจ้างน้อยที่สุดในหน่วยงานรัฐบาลกลาง
Alison Hirsch รองประธานของหน่วยงานระบุว่า “ นี่เป็นกลุ่มคนที่ไม่อาจอยู่รอดได้ถ้าไม่มีเงินค่าจ้าง พวกเขาไม่มีเงินมากพอจะเหลือเก็บ นี่อาจเปลี่ยนคะแนนเครดิตของพวกเขาไปอย่างถาวร ความสามารถในการเลี้ยงดูตัวเอง”
“ ไม่มีความมั่นคงอะไรเลย” Hicks กล่าว “นานแค่ไหนที่รัฐบาลจะชัทดาวน์อีกครั้ง หากทรัมป์ไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ”