เสื้อกั๊กเหลืองประท้วงสัปดาห์ที่ 10
ผู้ประท้วงกลุ่ม ‘เสื้อกั๊กเหลือง’ ประมาณ 5,000 คนมารวมตัวกันเพื่อเดินขบวนไปทั่วกรุงปารีสในฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ทำให้เป็นการประท้วงรัฐบาลประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ที่ 10 แล้ว
ผู้ประท้วงมารวมตัวกันบริเวณ Invalides esplanade ใกล้กับสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศส และเดินขบวนผ่านเมืองทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำแซนน์ โดยเป็นการเดินขบวนอย่างสงบ แม้ร้านค้าจำนวนมากจะปิดร้านเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ร้ายไว้ก่อนก็ตาม
แหล่งข่าวตำรวจระบุว่า มีผู้ประท้วงประมาณ 5,000 คนในกรุงปารีส โดยจำนวนหนึ่งมารวมตัวกันใกล้ถนนฌองเซลีเซส์ ขณะที่มีการเดินขบวนในเมืองใหญ่หลายเมืองของฝรั่งเศสไปพร้อมกันด้วย
“ มาครง ลาออก ! ” กลุ่มผู้ประท้วงพากันตะโกนก้อง
ขณะที่หลายคนทำวัตถุคล้ายโลงศพขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงการเสียชีวิต 10 รายในระหว่างการประท้วงหลายครั้งจนถึงตอนนี้ โดยสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตคืออุบัติเหตุเนื่องจากผู้ประท้วงมีการปิดถนนหลายสาย
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงเสื้อกั๊กเหลือง ซึ่งตั้งชื่อตามเสื้อกั๊กสีสะท้อนแสงที่ผู้ขับขี่รถยนต์ในฝรั่งเศสทุกคนต้องมีติดรถไว้ตามกฎหมาย เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โดยเหตุผลสำคัญที่หนุนให้เกิดการประท้วงในตอนแรกคือการประท้วงการเก็บภาษีน้ำมันเพิ่มเติมของรัฐบาล
โดยรัฐบาลประกาศยกเลิกภาษีน้ำมันตามที่ผู้ประท้วงเรียกร้องแล้ว แต่ยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเพราะผู้ประท้วงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นการกดดันให้ประธานาธิบดีมาครงลาออก เนื่องจากมองว่าเขาเอาใจนายทุนเกินไป และนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจของเขาไม่ได้ผล
การประท้วงลุกลามกลายเป็นจลาจลบนท้องถนนหลายครั้งในเดือนธ.ค. โดยมีการเผารถยนต์ ทำลายร้านค้าและธุรกิจริมถนนจนทำให้ตำรวจจับกุมตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงได้หลายร้อยคน
จนถึงตอนนี้ ผู้ประท้วงหลายคนยังไม่ยอมรับระดับความรุนแรงตามความเป็นจริง แม้จะมีภาพวิดีโอของอดีตนักมวยชาวฝรั่งเศสที่เตะต่อยตำรวจในกรุงปารีสออกมาทำให้ทุกคนช็อกก็ตาม
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมาครงมีการจัดการดีเบตอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยประเมินความไม่พอใจของประชาชน และรักษาจุดยืนของเขา.