รัฐบาลสหรัฐฯชัทดาวน์ 26 วันแล้ว
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. มีการคาดการณ์ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะลงนามในกฎหมายเพื่อจัดหางบประมาณจ่ายค่าจ้างย้อนหลังให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลส่วนกลางราว 800,000 คนจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯชัทดาวน์บางส่วน แม้จะยังไม่เห็นทางออกในเรื่องนี้ก็ตาม
เนื่องจากการชัทดาวน์บางส่วนของรัฐบาลเข้าสู่วันที่ 26 แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์มีกำหนดจะพบกับส.ส.กลุ่มเป็นกลางที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในเวลา 11.30 น.
อย่างไรก็ตาม การประชุมที่เกี่ยวข้องกับการชัทดาวน์ยังไม่มีความชัดเจน โดยทั้งทำเนียบขาวและส.ส.ยังไม่มีการขานรับในรายละเอียดในประเด็นนี้
การชัทดาวน์เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.ปีที่แล้ว หลังประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่าจะไม่ลงนามในกฎหมายงบประมาณของ 1 ใน 4 ของหน่วยงานรัฐบาล จนกว่างบประมาณนี้จะรวมค่าใช้จ่ายในการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกจำนวนกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯด้วย
กำแพงกั้นพรมแดนเป็นแคมเปญสำคัญที่เขาให้สัญญาไว้กับผู้สนับสนุนในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งของทรัมป์ในปี 2559 โดยเขาระบุในเวลานั้นว่าเม็กซิโกจะเป็นผู้จ่ายค่าก่อสร้าง แต่เขากลับลำ โดยปฏิเสธว่าเขาไม่เคยพูดว่าเม็กซิโกจะจ่ายค่าก่อสร้างโดยตรง
โดยเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ทรัมป์ยังคงกล่าวโทษพรรคเดโมแครตสำหรับสถานการณ์ที่ไม่มีทางออก และการปฏิเสธที่จะสนับสนุนการสร้างกำแพงของเขา เขาโพสต์บนทวิตเตอร์ว่า โครงการสร้างกำแพงทั่วโลก “ ยอมรับกันแล้วว่าสำเร็จเกือบ 100% หยุดอาชญากรรมที่ชายแดนทางใต้ ! ”
ทวีตของทรัมป์ดูจะไม่มีแนวโน้มทำให้ส.ส.พรรคเดโมแครตขยับแต่อย่างใด โดยเดโมแครตเริ่มครองเสียงข้างมากในสภาล่างตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. ทรัมป์ยังจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากส.ว.เดโมแครตบางส่วนเพื่อผ่านกฎหมาย
ส.ว.เดโมแครตมีแผนจะประชุมในสภาเพื่อเน้นให้เห็นชัดเจนถึงความเสียหายของการชัทดาวน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐ 800,000 คนถูกบีบให้อยู่บ้าน หรือมาทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง และผู้รับเหมาไม่ได้รับเงินในการทำงานกับรัฐบาล
นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า หากการชัทดาวน์ยังมีต่อเนื่องไปแต่ละสัปดาห์จะส่งผลให้ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจลดลง 0.1%
ชาวอเมริกันมากกว่าครึ่งโทษทรัมป์ว่าเป็นสาเหตุของการชัทดาวน์รัฐบาล อ้างอิงจากโพลของรอยเตอร์ /Ipsos ขณะที่อีกโพลพบว่าการชัทดาวน์ส่งผลกระทบกับชาวอเมริกันถึง 4 ใน 10 คน เกินกว่าจำนวนเจ้าหน้าที่รัฐส่วนกลาง 800,000 คนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง.
