เสื้อกั๊กเหลืองประท้วงรอบที่ 9 ในฝรั่งเศส
ผู้ชุมนุมหลายพันคนมารวมตัวกันเพื่อการประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองทั่วฝรั่งเศสเป็นรอบที่ 9 ทำให้มีผู้ถูกจับกุมตัวและปะทะกับเจ้าหน้าที่ในกรุงปารีสและพื้นที่เมืองอื่น
โดยตำรวจในกรุงปารีสฉีดน้ำและยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วงเพื่อควบคุมความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ประตูชัย นับเป็นการประท้วงของกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองในวันเสาร์ต่อเนื่องกันเป็นครั้งที่ 9 แล้ว
มีการบันทึกจำนวนผู้เข้าร่วมในการประท้วงในครั้งนี้ได้ถึง 84,000 คนทั่วฝรั่งเศส มากกว่าในสัปดาห์ที่แล้ว อ้างอิงจากตัวเลขของทางการ
ทั้งนี้ การประท้วงเริ่มต้นจากความไม่พอใจการปรับขึ้นภาษีน้ำมันที่สูงขึ้นมากของรัฐบาล และลุกลามกลายเป็นการประท้วงทั่วประเทศจากความไม่พอใจเรื่องค่าครองชีพ และมีการเรียกร้องเรื่องอื่นๆตามมาอีก
เจ้าหน้าที่จำนวนมากต้องมาควบคุมการประท้วงทั่วกรุงปารีส ซึ่งก่อนหน้านี้มีเหตุความรุนแรงบนถนนหลายสาย และเพื่อรับมือกับผู้ประท้วง ตำรวจปราบจลาจลได้ปิดกั้นเส้นทางการจราจรหลายสาย
มีผู้ชุมนุมประมาณ 8,000 คนบนท้องถนน มากกว่าการชุมนุมในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทางการประเมินว่ามีเพียง 3,500 คนในวันที่ 5 ม.ค. และเพียง 800 คนเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. อ้างอิงจากตัวเลขของกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส
ตำรวจระบุว่ามีการจับกุมผู้ประท้วง 156 คน และในเวลา 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของคืนวันที่ 12 ม.ค. ยังคงมีผู้ถูกควบคุมตัวประมาณ 108 คน โดยในช่วงกลางคืน ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง อย่างเช่นการเผารถยนต์ที่เคยเกิดขึ้นในหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ยังมีผู้ประท้วงหลายพันคนในเมืองบอร์โดซ์ และตูลุส ทางใต้ของประเทศ รวมถึงเมืองสตราสบูร์ ทางตะวันออก และเมืองบูร์ฌ ทางตอนกลางของฝรั่งเศส ซึ่งมีผู้ประท้วงกว่า 6,000 คนที่มาชุมนุมบนถนนหลายสาย
ตำรวจรายงานว่า มีผู้ถูกจับกุม 244 คนทั่วประเทศ และยังคงมีการควบคุมตัวผู้ประท้วงอยู่ถึง 201 คน
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 80,000 คนที่เข้าควบคุมสถานการณ์การประท้วงทั่วประเทศ
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงระบุว่า จะมีการจัดดีเบตทั่วประเทศ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.เป็นต้นไป เพื่อเป็นการขานรับกับการประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองที่มีมานานหลายสัปดาห์ โดยจะจัดขึ้นที่ศาลากลางทั่วฝรั่งเศสและทางอินเทอร์เน็ต และจะเน้นใน 4 ประเด็นหลักคือ ภาษี พลังงานสะอาด การปฏิรูปสถาบัน และสัญชาติ.