คนแก่มีแนวโน้มแชร์ข่าวปลอมใน FB
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมมีแนวโน้มที่จะแชร์ข่าวปลอมบนเฟซบุ๊กมากกว่าผู้ที่มีอายุน้อยกว่า หรือผู้มีแนวคิดเสรีนิยม อ้างอิงจากผลการศึกษาล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันและมหาวิทยาลัยนิวยอร์กในสหรัฐฯ ได้วิเคราะจากโพสต์ในเฟซบุ๊กของผู้ใช้งาน ชาวอเมริกัน 1,200 ราย ที่ยินยอมให้แชร์ข้อมูลของพวกเขาได้หลังจบการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2559
โดยผู้วิจัยเปรียบเทียบลิงค์ที่ผู้เข้าร่วมในการศึกษาได้แชร์บนเฟซบุ๊กกับรายชื่อจำนวนมาก รวมทั้งที่รวบรวมโดย Buzzfeed ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เป็นที่รู้กันว่าแชร์ข้อมูลเท็จ
โดยผลการศึกษา ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances พบว่า น้อยกว่า 8.5% ของผู้เข้าร่วมทดสอบแชร์ลิงค์จากหนึ่งในเว็บไซต์เหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และนิยามตัวเองว่าเป็นคนที่มีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยมจากการเมืองแบบฝ่ายซ้าย – ฝ่ายขวา แชร์บทความจากโดเมนข่าวปลอมมากกว่ากลุ่มที่มีอายุ 18 – 29 ปี ( ซึ่งเป็นกลุ่มที่อายุน้อยที่สุดในการวิจัย ) เกือบ 7 เท่า
“ มีความเป็นไปได้ว่า ชาวอเมริกันที่มีส่วนร่วมในการวิจัยในวัย 60 ปีหรือมากกว่า ขาดความสามารถในการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล จึงไม่อาจประเมินความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าวที่พวกเขาเสพบนโลกออนไลน์” ผลการศึกษาระบุ โดยผู้เขียนบทความยังได้ชี้ว่า อาจมีผลกระทบจากเรื่องอายุกับความจำ
“ ในบัญชีผู้ใช้งานเหล่านี้ ความทรงจำของพวกเขาที่เสื่อมถอยลงตามอายุ จึงทำลายความสามารถในการต้านทาน ‘ภาพลวงตาของความจริง’ ”
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่โหวตเลือกพรรครีพับลิกันแชร์ข่าวปลอมมากกว่าผู้ที่โหวตให้พรรคเดโมแครต และผู้ที่มีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยมแชร์ข่าวปลอมเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากบทความข่าวปลอมส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2559 ที่เอื้อประโยชน์ให้โดนัลด์ ทรัมป์
“ หากมีการสร้างข่าวปลอมเพื่อช่วยหนุนคะแนนเสียงของฮิลลารี คลินตันแทนของทรัมป์ในปีนั้น เป็นไปได้ว่ากลุ่มที่มีแนวคิดเสรีนิยมคงจะแชร์ข่าวปลอมมากกว่าพวกอนุรักษ์นิยม” ผู้เขียนระบุในบทความพิเศษของ Washington Post
ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่ล้มเหลวในการหยุดการปล่อยข่าวลวง ซึ่งรวมถึงการแทรกแซงจากองค์กรของรัสเซียในระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2559
บรรดาผู้บริหารของเฟซบุ๊กให้คำมั่นว่าจะทำให้แพลตฟอร์มมีความโปร่งใสมากขึ้นในช่วงที่เข้าให้ปากคำกับสภาคองเกรสของสหรัฐ ฯ และที่อื่นๆ และทางเฟซบุ๊กได้ยกระดับความพยายามที่จะค้นหา และกำจัดบัญชีใช้งานปลอม และแคมเปญที่ทรงอิทธิพลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น.