ประเดิมตลาดใหม่ ญี่ปุ่นประมูลทูน่าแพงสุดเกือบร้อยล้าน
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. เจ้าของร้านอาหารซูชิในญี่ปุ่นซื้อปลาทูน่ายักษ์ หรือปลามากุโร่ ในราคาสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 333.6 ล้านเยน หรือ 98 ล้านบาท ที่ตลาดปลาแห่งใหม่ของโตเกียวซึ่งมาแทนที่ตลาดปลาสึกิจิที่มีชื่อเสียงระดับโลกเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยได้มีการจัดการประมูลปลาก่อนรุ่งสางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นปีใหม่
การเสนอราคาปลาขนาดยักษ์น้ำหนักกว่า 278 กก. จบลงที่ราคา 333.6 ล้านเยน โดยปลาทูน่าตัวนี้เป็นสปีชีส์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ที่ถูกจับได้ทางทะเลติดกับชายฝั่งทางเหนือของญี่ปุ่น
คิโยชิ คิมูระ หรือที่เขาเรียกตัวเองว่า ราชาทูน่า เป็นผู้เสนอราคาสูงสุดซึ่งมากกว่าสถิติการประมูลที่มากที่สุดในปี 56 ในราคา 155 ล้านเยน หรือ 45 ล้านบาทถึงเท่าตัว
เจ้าของร้านเชนร้านอาหารซูชิให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ นี่เป็นทูน่าที่ดีที่สุด ผมซื้อปลาทูน่าที่ทั้งอร่อย ทั้งสดมาก ๆ มาได้ ”
นายคิมูระระบุหลังจบการประมูลว่า “ ราคาปลาถือว่าสูงกว่าราคาเดิมที่ผมเคยคิดไว้ แต่ผมก็หวังว่าลูกค้าของเราจะได้ทานทูน่าที่ยอดเยี่ยมตัวนี้ครับ ”
ตลาดปลาสึกิจิ คือตลาดปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวในย่านที่แน่นไปด้วยร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ โดยตลาดปลาสึกิจิถูกย้ายออกจากย่านเดิมเมื่อเดือนต.ค.ปีก่อน ไปยังโทโยสุ หรืออดีตโรงแยกก๊าซซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกเล็กน้อย
ตลาดสึกิจิ เริ่มให้บริการในปี พ.ศ.2478 โดยเป็นที่รู้จักอย่างมากจากการประมูลปลาทูน่าที่ถูกจับมาจากทั่วทุกมุมโลก ก่อนรุ่งสางเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ทุก ๆ คนได้นำไปปรุงอาหาร ตั้งแต่เชฟร้านซูชิการันตีด้วยดาวมิชลินระดับชั้นนำไปจนถึงร้านค้าทั่วไป
เป็นที่ทราบกันดีว่าทั้งผู้ค้าส่งและพ่อค้าซูชิ ต่างซื้อปลาในราคาที่สูงลิบเพื่อให้ได้ปลาตัวที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุด โดยเฉพาะการประมูลครั้งแรกหลังขึ้นปีใหม่
แม้ว่าจะมีการย้ายตลาดปลาสึกิจิมาที่โทโยสุ แต่ประเพณีการประมูลปลาก็ยังคงมีอยู่ ก่อนที่ฟ้าจะสว่าง ผู้ขายแต่ละรายในรองเท้ายางจะตรวจสอบคุณภาพของปลาทูน่ายักษ์ที่ทั้งสดและถูกแช่แข็งแล้ว โดยจะตัดปลายหางของปลาอย่างประณีตพร้อมใช้ไฟฉายช่วย แล้วจึงใช้นิ้วบี้ชิ้นเนื้อเพื่อทดสอบ
ปลามากุโร่ที่ถูกจับทั่วโลกโดยมีผู้บริโภคเป็นชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ เป้นวัตถุดิบสำหรับทำซูชิที่ราคาสูง โดยเป็นที่รู้จักในชื่อญี่ปุ่นว่า คุโระ มากุโร่ หรือปลาทูน่าดำ ถูกขนานนามโดยผู้ชื่นชอบซูชิว่าเป็น เพชรสีดำ เนื่องจากความหายากของมัน
ในร้านอาหารญี่ปุ่นราคาแพง เนื้อโอโทโร่ หรือเนื้อส่วนท้องที่มีมันของปลา เพียงแค่ชิ้นเดียวก็มีราคาสูงหลายร้อยบาท
ตลาดปลาแห่งใหม่ได้เปิดคลังสินค้าสำหรับประมูลปลาให้กับผู้เยี่ยมชมได้เห็นความอลหม่านที่เกิดขึ้นก่อนรุ่นสางจากบนระเบียงของโกดัง โดยหวังว่าจะสามารถทำให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดสำหรับเดินทาง แทนที่ตลาดปลาสึกิจิได้
เมื่อเวลา 5.10 น. เสียงระฆังมือดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ากำลังเข้าสู่การประมูลสินค้า เสียงตะโกนเสนอราคาของผู้เข้าร่วมประมูลดังไปทั่ว โดยพวกเขาจะชูนิ้วขึ้นเพื่อแสดงว่าต้องการจะเสนอราคา
โยชิฮิโกะ โอทากิ เจ้าหน้าที่ของตลาดโทโยสุระบุว่า “ในที่สุด การประมูลครั้งแรกหลังปีใหม่ก็ได้ถูกจัดขึ้นแล้วในตลาดโทโยสุครับ”
“ที่นี่เรามีปลามากุโร่จำนวนมากเช่นเดียวกับที่ตลาดสึกิจิเลยครับ”
ยูริโกะ โคอิเคะ ผู้ว่าการโตเกียว ผู้สวมรองเท้ายางสีขาวระบุว่า “ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตลาดแห่งนี้จะเป็นที่รักของผู้คนมากมายค่ะ”
การย้ายถิ่นของตลาดปลาแห่งนี้มีกระบวนการที่ยืดเยื้อและเป็นปัญหา มีเพียงไม่กี่รายที่จะแย้งความจริงที่ว่าตลาดปลาสึกิจิได้ผ่านช่วงเวลาสำคัญมาแล้ว และตอนนี้ก็เกิดความกังวลเกี่ยวกับข้อบังคับด้านเพลิงไหม้และการควบคุมด้านสุขอนามัยที่ล้าหลัง
ในทางตรงกันข้าม ตลาดแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองโทโยสุออกไป 2 กม.มีทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ล้ำสมัย และมีขนาดใหญ่กว่าตลาดแห่งเดิมเกือบ 2 เท่า
แต่ตลาดโทโยสุตั้งอยู่ในบริเวณที่อดีตเคยเป็นโรงแยกก๊าซและดินที่ตรวจพบในพื้นที่ยังมีการปนเปื้อนอีกด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องใช้เงินหลายสิบล้านบาทในการทำความสะอาด และยื้อเวลาการย้ายตลาดให้ล่าช้ากว่าเดิม.