มาครงสัญญาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศสระบุว่าจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และยกเลิกภาษีใหม่ของเงินบำนาญ หลังจากเกิดการประท้วงรุนแรงหลายสัปดาห์เพื่อท้าทายความเป็นผู้นำของเขา
ในการแถลงต่อประชาชนทางโทรทัศน์ มาครงระบุว่าการประท้วงที่รุนแรง ซึ่งเปลี่ยนจากการประท้วงของพลเมืองระดับรากหญ้าต่อการเก็บภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นการประท้วงการบริหารประเทศในฐานะประธานาธิบดีของเขา ว่าเป็นเรื่องที่ “ยอมรับไม่ได้” และ “จะไม่ได้รับการสนองตอบ”
แต่ผู้นำฝรั่งเศสเสนอการปฏิรูปสังคมหลายประการ ทั้งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก 100 ยูโร หรือราว 3,700 บาทต่อเดือน เริ่มต้นในเดือนม.ค.2562 และสัญญาว่าค่าแรงล่วงเวลาจะไม่ต้องถูกเก็บภาษี โดยประธานาธิบดีมาครงยังมีท่าทีแข็งขืน และระบุว่าเขาจะไม่เก็บภาษีความมั่งคั่ง แต่จะต่อสู้กับผู้ที่ฉ้อโกงภาษี
อย่างไรก็ตาม เขาประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระหว่างการประท้วง ทั้งการเผารถยนต์และทำลายทรัพย์สินพังเสียหาย
มาครงเสริมว่า ความไม่พอใจของประชาชนมาจาก “ 40 ปีของเศรษฐกิจที่ตกต่ำ” แต่ยอมรับว่ารัฐบาลของเขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างถูกต้องเหมาะสมภายใน 18 เดือนที่ดำรงตำแหน่ง เขากล่าวว่า นี่เป็นความรับผิดชอบของเขาในเรื่องนี้
“ เราอยู่ตรงจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์ของประเทศของเรา” มาครงเสริม “ ผ่านการพูดคุย การให้เกียรติ มีข้อผูกพัน เราจะทำสำเร็จ ที่ผมเป็นห่วงคือพวกคุณ การต่อสู้ของเราคือเพื่อประเทศฝรั่งเศส”
โดยเมื่อเช้าวันที่ 10 ธ.ค. มาครงได้พบกับสหภาพการค้าและกลุ่มผู้นำธุรกิจ ก่อนที่จะมีการพูดคุยต่อกับนักเรียน นักศึกษาฝรั่งเศสในช่วงค่ำ
มีการประท้วงใน 120 ร.ร.ทั่วประเทศ โดยมีร.ร.ถึง 40 แห่งที่ถูกปิดล้อมโดยเด็กนักเรียน โฆษกหญิงของกระทรวงศึกษาธิการรายงาน
โดยเด็กนักเรียนประท้วงการปฏิรูปการศึกษาของรัฐบาลปัจจุบัน คือการเปลี่ยนแปลงระบบการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งพวกเขากล่าวว่าเป็นการเข้มงวดกับการคัดเลือกนักเรียนมากกว่าเดิม
การประท้วงในสัปดาห์นี้ มีขนาดเล็กลงกว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่กลับมีผู้ถูกจับกุมตัวมากขึ้นกว่า 3 สัปดาห์รวมกัน อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย โดยรวมแล้ว การประท้วงช่วงสุดสัปดาห์ขยายวงกว้างถึงเมืองทางใต้อย่างมาร์เซย์ และตูลูส มีผู้เข้าร่วมการประท้วง ประมาณ 136,000 คนทั่วประเทศ กระทรวงเสริม
ภาคค้าปลีกของฝรั่งเศสมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่การประท้วงเริ่มต้นขึ้นในเดือนพ.ย. อ้างอิงจาก โซฟี อมอรอส โฆษกหญิงของสภาค้าปลีก
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. บรูโน เลอ แมร์ รมว.กระทรวงการคลังระบุว่า การประท้วงได้สร้าง “หายนะ” ให้กับเศรษฐกิจฝรั่งเศส
มาครงถูกบีบให้รับมือกับการประท้วงด้วยการระงับการขึ้นภาษีน้ำมันเพิ่มเติมเป็นเวลานาน 6 เดือน ซึ่งตามกำหนดเดิมจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของการประท้วงได้ขยายวงกว้างไปในประเด็นอื่น ทั้งสภาพที่อยู่อาศัยที่ไม่ปลอดภัย ไปจนถึงนักเรียนที่ไม่พอใจการปฏิรูปการศึกษาของรัฐบาล และกลุ่มคนที่ต่อต้านผู้อพยพเข้าเมือง.