ตำรวจฝรั่งเศสปะทะผู้ประท้วงอีก
ตำรวจปราบจลาจลฝรั่งเศสยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วง ‘ เสื้อกั๊กเหลือง ’ กลางกรุงปารีสเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ในการเดินขบวนประท้วงนโยบายของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงที่ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น
โฆษกหญิงตำรวจกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มีผู้ประท้วงประมาณ 1,500 คนบนถนนฌองเซลีเซ่ และทางการระบุว่าได้จับกุมตัวผู้ประท้วง 211 คนหลังจากตำรวจพบว่าคนเหล่านี้มีการพกอาวุธทั้งค้อน ไม้เบสบอล และลูกเปตองมาเพื่อสู้กับตำรวจ
ผู้ประท้วงหลายพันคนชุมนุมกันรอบๆ ประตูชัย ซึ่งเพิ่งถูกพ่นสีภาพกราฟิตีจนเลอะเทอะไปเมื่อสัปดาห์ก่อน และผู้ประท้วงก่อการจลาจลทำลายรถยนต์และร้านค้าพังเสียหาย
“ เราจะทำทุกอย่างเท่าที่เราทำได้ เพื่อให้วันนี้เป็นวันที่ไม่มีความรุนแรง เพื่อให้การเจรจาที่เริ่มต้นดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ในสถานการณ์ที่เป็นไปได้อย่างดีที่สุด ” นายกรัฐมนตรีเอดัวร์ ฟิลลิปกล่าวในการแถลงทางสถานีโทรทัศน์
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. นายกฯฟิลลิปประกาศว่ารัฐบาลระงับแผนขึ้นภาษีน้ำมันเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อช่วยหยุดยั้งการประท้วงที่เกิดขึ้นหลายสัปดาห์ ถือเป็นการถอยหลังกลับครั้งแรกของประธานาธิบดีมาครงตั้งแต่เขาเข้าสู่อำนาจเมื่อ 18 เดือนก่อน
มีตำรวจประมาณ 89,000 นายที่ประจำการเพื่อปฏิบัติหน้าที่ทั่วฝรั่งเศสในวันที่ 8 ธ.ค. โดย 8,000 นายอยู่ในกรุงปารีส
“ เรามีการเตรียมพร้อมรับมือที่ดี” Christophe Castaner รมว.กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสระบุบนเว็บไซต์ข่าว Brut เขาเรียกร้องให้ผู้ที่ประท้วงอย่างสงบไม่เข้าไปปะปนรวมอยู่กับกลุ่ม ‘อันธพาล’
“ พวกที่สร้างปัญหาจะได้ผลอย่างที่ต้องการเมื่อพวกเขาทำตัวกลมกลืนเป็นกลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง ความรุนแรงไม่ใช่วิธีการที่ดี ที่จะได้อย่างที่ต้องการ ตอนนี้เป็นเวลาของการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ” เขากล่าว
“ หากพวกคุณไม่ก้าวร้าว เราก็จะไม่ก้าวร้าวตอบ ” ตำรวจสวมหน้ากากนายหนึ่งกล่าวเพราะมีผู้ประท้วงคนหนึ่งโยนดอกไม้พลาสติกสีเหลืองให้ตำรวจ
พื้นที่ส่วนใหญ่ในกรุงปารีสดูเหมือนเหมือนเมืองร้างในวันที่ 8 ธ.ค.เพราะพิพิธภัณฑ์ ห้างสรรพสินค้าปิดในช่วงเวลาที่เคยเป็นวันช้อปปิ้งก่อนเทศกาลคริสต์มาส นักท่องเที่ยวมีจำนวนน้อยและประชาชนได้รับคำเตือนให้อยู่แต่ในบ้าน มีการปิดถนนหลายสาย และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทั้งหอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ออร์แซ และพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ล้วนปิดหมด
“ เรามาที่นี่เพื่อการเดินขบวนอย่างสันติ ไม่ใช่ทำลายข้าวของ เราต้องการความเท่าเทียม เราอยากใช้ชีวิต ไม่ใช่รอดชีวิต ” ผู้ประท้วงรายหนึ่ง วัย 28 ปีกล่าว
การเดินขบวนขยายวงกว้าง จนบางครั้งกลายเป็นการต่อต้านมาครงอย่างรุนแรง เป็นการท้าทายที่ยากจะจัดการเพราะการประท้วงไม่มีผู้นำอย่างเป็นทางการ
โดยทางการฝรั่งเศสระบุว่า การประท้วงถูกควบคุมโดยกลุ่มการเมืองฝ่ายขวา และกลุ่มที่ชอบความรุนแรงเพื่อก่อความไม่สงบในสังคมเพื่อหวังผลจากการต่อต้านมาครงและฝ่ายความมั่นคง
แม้รัฐบาลจะยอมถอยเรื่องการขึ้นภาษีน้ำมัน แต่ผู้ประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองกลับยังคงมีข้อเรียกร้องอื่นๆต่อไป ทั้งการลดภาษีลง ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ลดราคาพลังงาน เงินบำนาญที่ให้ผลประโยชน์มากขึ้น และถึงขนาดเรียกร้องให้ผู้นำฝรั่งเศสลาออก.