ค้นหาต่อพื้นที่ไฟป่าในแคลิฟอร์เนีย
ทีมค้นหาร่างผู้เสียชีวิตจากเหตไฟป่าที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนียสามารถปฏิบัติภารกิจต่อหลังสภาพอากาศดีในวันที่ 24 พ.ย. แต่คาดการณ์ว่าฝนจะตกอีกในสัปดาห์หน้าและทางการเตือนเรื่องดินถล่ม
ไฟป่าที่มีชื่อเรียกว่า Camp Fire โหมเข้าเผาผลาญพื้นที่ภูเขาในเมืองพาราไดส์ ซึ่งอยู่ห่างจากนครซานฟรานซิสโกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 280 ก.ม.เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 85 ราย และทำลายบ้านเรือนไปเกือบ 14,000 หลัง จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรายเมื่อคืนวันที่ 24 พ.ย. อ้างอิงจากสำนักงานนายอำเภอ Butt County
โดยประชาชน 475 รายจากเมืองพาราไดส์และชุมชนรอบๆ ยังคงไม่ถูกนับรวมอยู่ในจำนวนผู้เสียชีวิต อ้างอิงจากสำนักงานนายอำเภอ Butt County
เจ้าหน้าที่ตำรวจและจิตอาสาหลายร้อยคนได้ออกค้นหาทั้งในและรอบเมืองพาราไดส์ตั้งแต่ไฟป่าเผาผลาญพื้นที่เมืองจนถึงตอนนี้
ปริมาณน้ำฝนประมาณ 5 – 8 ซ.ม. ที่ตกลงมาในพื้นที่ในช่วงเวลาเมื่อ 2 – 3 วันก่อน ทำให้สภาพซากบ้านเรือนที่ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านเละเทะ และยิ่งทำให้การทำงานค้นหาร่างผู้เสียชีวิตยากลำบากมากขึ้น
Kory Honea นายอำเภอ Butt County ออกโรงเตือนว่า ยังมีร่างเหยื่อผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่เจ้าหน้าที่ยังหาไม่พบ
Miranda Bowersox โฆษกสำนักงานนายอำเภอ Butt County รายงานว่าทีมค้นหากลับมาปฏิบัติหน้าที่ค้นหาร่างผู้เสียชีวิตต่อเมื่อวันที่ 24 พ.ย
เนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกลงมาอีกครั้งในวันที่ 28 พ.ย.นี้.
David Roth จากศูนย์พยากรณ์อากาศกลางรายงานว่า คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำฝนสะสมประมาณ 2 – 3 นิ้วในพื้นที่ที่ถูกไฟป่า Camp Fire เผาผลาญ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. – 1 ธ.ค.นี้
เขาระบุว่า ฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านี้ในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้เกิดโคลนถล่ม อาจส่งผลกับพื้นที่บริเวณนั้นในอนาคต
“ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจะเป็นปัญหาที่นั่นในอีก 2 – 3 ปีหน้า หรืออีกหลายปีในอนาคต”
ทางการระบุว่า จะยกเลิกคำสั่งอพยพในบางพื้นที่ทางใต้ของเมืองพาราไดส์เมื่อวันที่ 24 พ.ย.
ทั้งนี้ เมืองพาราไดส์เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากผู้เกษียณอายุ ที่มีอายุ 65 ปีหรือมากกว่า คิดเป็น 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรในเมืองทั้งหมดประมาณ 27,000 คน โดยเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่จากเหตุไฟป่าเป็นผู้สูงอายุที่ไม่สามารถอพยพหนีได้ทัน
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก่อนหน้านี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้ถึง 98% โดยเพลิงเผาผลาญทำลายพื้นที่ไปประมาณ 385,000 ไร่ ซึ่งคิดเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าเมืองซานฟรานซิสโกถึง 5 เท่า
