ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา/ฉีดน้ำใส่ผู้ประท้วงในปารีส
ตำรวจในกรุงปารีสยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเข้าใส่ผู้ประท้วงบนถนนฌองเซลีเซ่ ใจกลางเมืองหลวงของฝรั่งเศส
โดยผู้ประท้วง ’เสื้อกั๊กเหลือง’ ซึ่งเริ่มจากการชุมนุมประท้วงราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ได้ขยายตัวใหญ่ขึ้นเป็นการประท้วงรัฐบาลประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงในช่วงสัปดาห์นี้
ตำรวจรายงานว่า ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 3,000 นายในการรับมือกับผู้ประท้วงในครั้งนี้ และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรอบนอกได้เข้ามาประจำในใจกลางเมือง เพื่อเฝ้าระวังอาคารของรัฐบาล
ในการแถลงข่าวเมื่อเย็นวันที่ 23 พ.ย. Christophe Castaner รมว.กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสระบุว่า “ เสรีภาพในการแสดงออกได้รับการคุ้มครอง แต่ต้องเป็นการแสดงออกที่ไม่กระทบกับความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยของประชาชน และสิทธิของทุกคนในการเดินทาง ไม่มีเสรีภาพใดที่ปราศจากความสงบเรียบร้อยของประชาชน ”
ในสัปดาห์ก่อน มีผู้ประท้วงรายหนึ่งที่เกิดอุบัติเหตุถูกรถยนต์คันหนึ่งพุ่งเข้าชน และมีผู้เข้าร่วมการประท้วงกว่า 200 รายที่ได้รับบาดเจ็บจากการประท้วงในพื้นที่ตะวันออกของฝรั่งเศส
นอกจากการประท้วงเรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่แพงเกินไป ผู้ประท้วงยังได้สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดที่มีมายาวนานคือความเหลื่อมล้ำระหว่างคนมีฐานะดีในเมืองและคนในชนบทที่ยากจน
โดยราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น 16% ในปีนี้จากที่เคยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.24 ยูโรต่อลิตร เป็น 1.48 ยูโรต่อลิตร และในเดือนต.ค. ราคาเคยพุ่งขึ้นไปถึง 1.53 ยูโรต่อลิตรในเดือนต.ค. อ้างอิงจาก UFIP หรือ สภาอุตสาหกรรมน้ำมันของฝรั่งเศส
ราคาที่ปรับสูงขึ้นทำให้ราคาน้ำมันค้าสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นมาตรฐานราคาน้ำมันทั่วโลก ราคาพุ่งขึ้นกว่า 20% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 นี้ จากประมาณ 60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลเป็น 86.7 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลในช่วงต้นเดือนต.ค.
อย่างไรก็ตาม การประท้วงในฝรั่งเศส ไม่ใช่การแสดงออกถึงความไม่พอใจโดยตรงต่อกลุ่มโอเปกที่ลดเพดานการผลิตน้ำมัน หรือรัฐบาลสหรัฐฯที่ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งทำลายการส่งออกน้ำมัน แต่เป็นประธานาธิบดีมาครงที่ทำให้ประชาชนชาวฝรั่งเศสไม่พอใจเป็นวงกว้าง
เพราะเขาขยายนโยบายสิ่งแวดล้อมโดยสานต่อแนวนโยบายเดิมของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์
รัฐบาลของมาครงปรับขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลอีก 8 ซองตีมเมื่อเดือนม.ค. และอีก 4 ซองตีมสำหรับน้ำมันเบนซิน และในปี 2562 ภาษีน้ำมันดีเซลจะปรับขึ้นอีก 6.4 ยูโรเซนต์ และ 2.9 ยูโรเซนต์สำหรับน้ำมันเบนซิน
ความไม่พอใจของชาวฝรั่งเศสทำให้ฝ่ายตรงข้ามของประธานาธิบดีมาครง ซึ่งเป็นนักการเมืองสายกลางจากพรรค En Marche พยายามที่จะเติมเชื้อไฟให้รุนแรงขึ้น
“ รัฐบาลนี้ไม่เข้าใจความโกรธของคนฝรั่งเศส ” Olivier Faure หัวหน้าพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสกล่าวในเดือนนี้
“ มาครงไม่ได้ยินเสียงของคนฝรั่งเศส ” Laurent Wauquiez หัวหน้าพรรค Les Republicans กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ
ขณะเดียวกัน Marine Le Pen อดีตคู่แข่งของมาครง ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค National Rally ระบุว่า “ เราเป็นพรรคแรกที่แสดงออกว่าสนับสนุนความเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างเต็มที่ ”
รมว.Castaner โต้กลับฝ่ายตรงข้ามของมาครง โดยระบุว่าเป็นการประท้วง “ทางการเมือง” และกล่าวหาว่าพรรค Les Republicans อยู่เบื้องหลังการประท้วงครั้งนี้
“ เป็นการประท้วงทางการเมืองที่มีพรรค Republicans อยู่เบื้องหลัง และเป็นเรื่องไม่มีเหตุผลเพราะการขึ้นภาษีได้มีการชดเชยไปแล้วจากตลาดน้ำมัน” เขากล่าวกับ BFMTV เราได้ยินเสียงการประท้วง เราได้ยินเสียงความไม่พอใจ ผมรู้สถานการณ์ดี แต่เราต้องอธิบายว่า มันสำคัญที่เราต้องหาทางออกจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ”