เดนมาร์กมุ่งคุ้มครองคนแฉโกง หลังข่าวฉาวแบงก์
เดนมาร์กให้คำมั่นที่จะปรับปรุงระบบการคุ้มครองทางกฎหมายสำหรับผู้เปิดเผยข้อมูลการทุจริต หลังจากชายชาวอังกฤษรายหนึ่งซึ่งช่วยเปิดโปงกระบวนการฟอกเงินที่ธนาคาร Danske ออกมาพูดต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก
จากข่าวอื้อฉาวที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทางการเดนมาร์ก เอสโทเนีย อังกฤษ และสหรัฐฯ ได้ร่วมกันสอบสวนการฟอกเงินจำนวน 200,000 ล้านยูโร หรือราว 7.64 ล้านล้านบาท ผ่านสาขาเล็กๆของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเดนมาร์กอย่าง Danske ในประเทศเอสโทเนียในระหว่างปี 2550 – 2558
แต่ทนายความของชายผู้แฉการฟอกเงินในคดีนี้ระบุว่า ระบบคุ้มครองผู้เปิดเผยข้อมูลการทุจริตของเดนมาร์กถือว่าอ่อนแอที่สุดในยุโรป โดยอ้างถึงผลสำรวจจากองค์การต่อต้านการทุจริต Transparency International และ Blueprint for Free Speech
“ เดนมาร์กถูกจัดอยู่ในอันดับ 0 ซึ่งหมายถึงระดับต่ำสุด คือไม่มีการคุ้มครองผู้เปิดเผยข้อมูลการทุจริต อยู่ในประเภทที่เลวร้ายที่สุดสำหรับทุกประเทศในยุโรป ” Stephen Kohn ทนายสหรัฐฯกล่าวในงานประชาพิจารณ์ที่กรุงโคเปนเฮเกนเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดย Howard Wilkinson ลูกความของเขา กล่าวในระหว่างการไต่สวนของสภาเดนมาร์กเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ว่า มีธนาคารรายใหญ่ของยุโรปแห่งหนึ่งที่ช่วยในการดำเนินการจ่ายเงินต้องสงสัยจำนวน 150,000 ล้านยูโรให้ธนาคาร Danske หรือเกือบ 2 ใน 3 ของจำนวนเงินทั้งหมดที่อยู่ในการตรวจสอบดำเนินคดี
แต่ Kohn ระบุว่า Wilkinson ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยเทรดดิ้งในรัฐบอลติก (ลิทัวเนีย ลัตเวีย และเอสโทเนีย) ของธนาคาร Danske ปี 2550 – 2557 มีความเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความลับของธนาคารในเดนมาร์ก จากการเปิดเผยข้อมูลของเขาเรื่องการทำธุรกรรมผิดกฎหมายที่ธนาคาร Danske ให้ทางการรับรู้
“ หาก Howard Wilkinson ถูกต้องในกรณีที่ว่า เขาไม่สามารถพูดกับทางการเดนมาร์กได้โดยไม่ถูกดำเนินคดี เห็นได้ชัดว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ” Rasmus Jarlov รมว.กระทรวงธุรกิจโพสต์บนทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 19 พ.ย. เขากำลังตรวจสอบในประเด็นนี้และไม่มีความเห็นนอกเหนือจากนี้ โฆษกระบุเมื่อวันที่ 20 พ.ย.
ทนาย Kohn ระบุเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ว่า Wilkinson รับปากว่าจะให้ความร่วมมือกับสภาเดนมาร์ก แม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่เขาจะถูกดำเนินคดีก็ตาม
แม้กลุ่มประเทศนอร์ดิก (เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ สวีเดน นอร์เวย์) จะมีเสรีภาพในการพูดตามรัฐธรรมนูญ แต่กฎหมายที่คุ้มครองผู้เปิดเผยข้อมูลการทุจริตกลับคลุมเครือไม่ชัดเจน ส.ส.Lisbeth Bech Poulsen ให้ความเห็น
“ เราจำเป็นต้องมีกฎหมายคุ้มครองผู้เปิดเผยข้อมูลการทุจริต และสถานที่ซึ่งคุณสามารถเข้าไปอย่างนิรนาม และปลอดความเสี่ยง และได้รับคำปรึกษา และมีอำนาจที่จะเดินหน้า และคุยกับทางการ ไม่อย่างนั้น การทำถูกกฎหมายจะถูกจำกัดด้วยสัญญา ” เธอกล่าวกับสื่อรอยเตอร์