CIA สรุปเจ้าชายซาอุฯสั่งการฆ่าคาชอกกี
CIA สรุปการสอบสวนว่า มกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานเป็นผู้สั่งการสังหารนายจามาล คาชอกกี คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ขณะที่รัฐบาลซาอุฯปฏิเสธคำกล่าวหานี้ อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่อาวุโสสหรัฐฯ
โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าวกับ CNN เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ว่า ข้อสรุปของ CIA หรือสำนักข่าวกรองกลางอเมริกัน มาจากหลักฐานคลิปเสียงจากรัฐบาลตุรกีและหลักฐานอื่นๆ รวมทั้งหลักฐานของ CIA เอง
ทีมสอบสวนยังเชื่อว่า จะไม่มีการลงมือสังหารคาชอกกี หากปราศจากการสั่งการของมกุฎราชกุมารที่ควบคุมรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย เจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าว
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เป็นรายแรกที่รายงานการสรุปสำนวนของ CIA โดยในรายงานของวอชิงตันโพสต์ ทางการสหรัฐฯเชื่อมั่นอย่างสูงกับการประเมินของ CIA
ขณะที่โฆษกของ CIA ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับทางวอชิงตันโพสต์ และรัฐบาลซาอุฯปฏิเสธว่ามกุฏราชกุมารบิน ซัลมานไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคาชอกกี
ทั้งนี้ คาชอกกี ซึ่งเป็นอดีตอินไซเดอร์ของราชวงศ์ซาอุฯที่กลายมาเป็นนักวิจารณ์รัฐบาลซาอุฯ หายตัวไปในเดือนต.ค. หลังจากเขาไปเยือนสถานกงสุลในกรุงอีสตันบุล ประเทศตุรกี เพื่อรับเอกสารการแต่งงานที่กำลังจะมีขึ้น รัฐบาลซาอุฯเสนอ
ในเอกสารของสำนักสอบสวนกลางที่ CIA วิเคราะห์คือ มีสายโทรศัพท์จากเจ้าชายคาลิด บิน ซัลมาน พระอนุชาของมกุฎราชกุมารถึงคาชอกกี โดยมีการโน้มน้าวให้ตาชอกกีไปที่สถานกงสุลเพื่อรับเอกสาร อ้างอิงจากรายงานของวอชิงตันโพสต์ โดยแหล่งข่าวระบุว่า เจ้าชายคาลิดทรงโทรไปตามคำสั่งของมกุฎราชกุมาร
เจ้าชายคาลิดทรงปฏิเสธรายงานของวอชิงตันโพสต์ โดยทรงทวีตบนทวิตเตอร์ว่า พระองค์ไม่เคยโทรหาคาชอกกี
“ เราไม่เคยคุยกับเขาทางโทรศัพท์ และแน่นอนว่าไม่เคยแนะนำให้เขาไปตุรกีด้วยเหตุผลใดๆ เราขอให้รัฐบาลสหรัฐฯแสดงหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวหานี้” เจ้าชายคาลิดทรงโพสต์ โดยพระองค์ระบุว่า ทรงติดต่อคาชอกกีครั้งสุดท้ายด้วยการส่งข้อความเมื่อเดือนต.ค. 2560
ขณะที่ฟาติมาห์ บาเอสเชน โฆษกสถานทูตซาอุฯในกรุงวอชิงตัน ชี้แจงว่าเจ้าชายคาลิด ซึ่งทรงเป็นเอกอัครราชทูตซาอุฯประจำสหรัฐฯและคาชอกกีไม่เคยคุยกันเกี่ยวกับการไปตุรกี
โดย CIA ยังได้ตรวจสอบคลิปเสียงจากภายในสถานกงสุลซาอุฯ ที่ทางตุรกีส่งให้ และบันทึกโทรศัพท์ในกงสุลหลังคาชอกกีเสียชีวิต อ้างอิงจากรายงานของวอชิงตันโพสต์
มาเฮอร์ มูเทรบ หนึ่งในทีมสังหารจากซาอุฯ และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของมกุฎราชกุมาร ได้โทรไปหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพระองค์โดยรายงานว่า งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการโทรระบุกับทางวอชิงตันโพสต์
และในรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ ทาง CIA ยังไม่ทราบว่าศพของคาชอกกีอยู่ที่ไหน
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. รัฐบาลสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตร 17 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสังหารคาชอกกี โดยการสังหารคาชอกกีกลายเป็นวิกฤตสำหรับรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้มีการพุ่งความสนใจอย่างมากไปที่ความสัมพันธ์ทางธุรกิจของทรัมป์กับทางซาอุฯ และความสัมพันธ์ของมกุฎราชกุมารบิน ซัลมานกับแจเรด คุชเนอร์ บุตรเขยของทรัมป์เป็นที่ปรึกษาทำเนียบขาว
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน สำนักงานอัยการซาอุฯระบุว่า มีการตั้งข้อกล่าวหากับ 11 คนที่เกี่ยวข้องกับการสังหารคาชอกกี โดยเสริมว่า 5 คนถูกลงโทษทางการเงินจากความเกี่ยวข้องกับการสั่งการและกระทำฆาตกรรม
ทั้งนี้ สำนักงานอัยการระบุว่า คาชอกกีถูกฆ่าหลังการทะเลาะวิวาทที่สถานกงสุลซาอุฯ โดยอัยการชี้แจงว่าคาชอกกีถูกมัด และฉีดยากล่อมประสาทอย่างแรงเพื่อสังหารเขา จากนั้น ร่างของเขาก็ถูกหั่นแยกชิ้นส่วนและถูกนำออกไปจากกงสุลโดยชาย 5 คน.