ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย เสียชีวิตเพิ่มเป็น 42 ราย
มีรายงานว่ามีการค้นพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 13 รายในแคลิฟอร์เนีย ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 42 ราย อ้างอิงจากข้อมูลของทางการ
โดยมีการพบร่างผู้เสียชีวิตทั้งในและรอบเมืองพาราไดส์ ในพื้นที่ทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีผู้สูญหายอย่างน้อย 228 รายจากไฟป่า Camp Fire และมีอาคารบ้านเรือนเกือบ 7,200 แห่งที่ถูกเพลิงเผาผลาญทำลาย และอีก 15,500 แห่งที่อยู่ในความเสี่ยง
ไฟป่าครั้งนี้มีความรุนแรงเกินกว่าความเสียหายของเหตุไฟป่าในอดีตเมื่อปี 2476 ที่กริฟฟิธ พาร์ค ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 31 ราย
Kory Honea นายอำเภอเขต Butte ยืนยันถึงจำนวนผู้เสียชีวิตในการแถลงข่าวเมื่อเย็นวันที่ 12 พ.ย.และจำนวนผู้สูญหายอย่างเป็นทางการ และมีเหยื่ออีกจำนวนมากที่ไม่ได้ถูกนับรวมด้วย
พื้นที่ทางใต้ของรัฐ มีไฟป่า Woosley Fire เกิดขึ้นอีก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และไฟผลาญทำลายรีสอร์ทริมทะเลที่มาลิบูทำให้มีประชาชนในพื้นที่กว่า 300,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศภัยพิบัติร้ายแรงในรัฐแคลิฟอร์เนีย และจัดสรรงบประมาณส่วนกลางเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
เมืองพาราไดส์และบริเวณโดยรอบเกิดเหตุไฟป่า Camp Fire ซึ่งเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ที่สุด ที่เริ่มปะทุขึ้นในป่าข้างๆ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 พ.ย.
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตในรถที่ถูกไฟไหม้เสียหายหมดจากเพลิงที่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้อาศัยต้องเร่งรีบอพยพในช่วงกลางคืน
Sorrell Bobrink ผู้อาศัยในเมืองพาราไดส์ ซึ่งขับรถหนีพร้อมบุตรของเธอ กล่าวกับสื่อว่า เธอตื่นขึ้นมาและเพื่อนโทรมาเตือน เธอบรรยายสถานการณ์ว่า “ เหมือนอยู่ในหนังหายนะโลกที่ฉันเคยดู” และกล่าวว่าเธอไม่รู้เลยว่าเธอขับรถเข้าหาความตาย หรือออกจากอันตรายเพราะท้องฟ้าดำมืดไปหมด
“ ฉันต้องขับฝ่าไฟ มันน่ากลัวมาก เป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวที่สุดที่ฉันเคยเจอมาในชีวิต ” เธอกล่าวกับรายการข่าว Newsday
“ เป็นเรื่องน่ากลัวและเลวร้ายมาก เราจะเจ็บไปอีกนาน ชุมชนของเราคงเจ็บด้วย ฉันทนดูหนังแบบนั้นไม่ได้อีกเพราะฉันเพิ่งผ่านมันมาจริงๆ ”
เชื่อว่าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายหลายรายเป็นผู้สูงอายุ หรือคนที่มีปัญหาในการอพยพ
ผู้เชี่ยวชาญนิติเวชยังคงค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในเมืองพาราไดส์ แต่ทางการเตือนว่าการค้นหาคงต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์
มีการนำสุนัขที่ช่วยในการชันสูตรพร้อมเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นที่พยายามค้นหาตำแหน่งของผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ ไฟป่าเผาผลาญพื้นที่ไปมากกว่า 280,830 ไร่ และสามารถควบคุมเพลิงได้เพียง 25%
ไฟป่า Woosley เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ใกล้เธาซันด์ โอ๊คส ห่างจากลอสแองเจลิสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 64 ก.ม.
บ้านหรูหราราคาแพงในมาลิบูและชุมชนริมหาดอื่นๆถูกไฟป่าเผาวอดวาย ขณะที่เมือง Calabasas ที่อยู่ใกล้เคียงและเป็นเมืองที่คนดังอาศัยอยู่ ยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ
ฤดูไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนียเริ่มต้นขึ้นในฤดูร้อนและลามเข้าสู่ต้นฤดูใบไม้ร่วง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ตอนนี้มีความเสี่ยงที่ไฟป่าจะเกิดได้ตลอดทั้งปี
ความชื้นต่ำ ,ลมร้อนซานตา อนา และความแห้งแล้งหลังไม่มีฝนตกทั้งเดือนทำให้สภาพแวดล้อมเกิดไฟป่าแพร่กระจายเร็วขึ้น นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ฤดูใบไม้ผลิมาเร็วขึ้น และฝนตกน้อยลง
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศว่า “ นี่ไม่ใช่ความปกติแบบใหม่ แต่เป็นความผิดปกติแบบใหม่ ”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายพันนายจากทั่วสหรัฐฯต้องเดินทางมาเพื่อช่วยควบคุมเพลิงในแคลิฟอร์เนีย.