เกาหลีใต้พึ่งบ.ยักษ์ใหญ่ลงทุนเกาหลีเหนือ
ประธานาธิบดีมุนแจอินแห่งเกาหลีใต้เข้าดำรงตำแหน่งด้วยการให้คำมั่นว่าจะปฏิรูปธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่บริหารงานแบบครอบครัว ที่เรียกว่า แชโบล แต่นักวิจารณ์ระบุว่าเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องรอง เพราะรัฐบาลมุ่งให้ความสนใจกับเกาหลีเหนือมากกว่า
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเป็นองค์ประกอบสำคัญของการสร้างสันติภาพของประธานาธิบดีมุนกับประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือ และแชโบลมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ การลงทุนจากอาณาจักรธุรกิจยักษ์ใหญ่จะมีผลต่อการสร้างโครงข่ายคมนามคมระหว่างเกาหลี และฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งเป็นสองโครงการที่ใกล้ชิดกับเป้าหมายของมุน ในการเดินทางไปกรุงเปียงยางเดือนก.ย. ประธานาธิบดีพร้อมด้วยนักธุรกิจชั้นนำจากแชโบลเดินทางไปเพื่อประเมินผลโอกาสธุรกิจที่มีศักยภาพในเกาหลีเหนือ
“ ประธานาธิบดีมุนต้องพึ่งพาแชโบลสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองเกาหลี ผมจึงไม่คิดว่าจะเป็นจริงได้เลยที่จะมีการปฏิรูปแชโบล ” พัคซันจิน ผู้เชี่ยวชาญด้านแชโบลประจำมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลให้ความเห็น “น่าผิดหวังมาก”
นอกจากนี้ แชโบลยังมีศักยภาพสำคัญที่จะฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการสร้างงานที่ซบเซาในประเทศ โดยอัตราการว่างงานของเกาหลีใต้พุ่งสูงที่สุดในรอบ 8 ปีในเดือนส.ค.
แชโบลโดดเด่นในเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีใต้ โดยแต่ละบริษัทก็มีธุรกิจที่หลากหลาย อย่างฮุนได ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังมีบริษัทชิปปิ้ง และเป็นผู้ผลิตเหล็ก นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นอย่างแผงโซลาร์เซลล์ด้วย
แต่นักวิจารณ์มองว่าควรต้องมีการปฎิรูปแชโบลเหล่านี้ เนื่องจากที่ผ่านมาแต่ละครอบครัวที่เป็นผู้บริหารบริษัทมีการถือหุ้นไขว้กันไปมา ซึ่งทำให้กลายเป็นค่าใช้จ่ายกับผู้ถือหุ้นรายอื่น นอกจากนี้ แชโบลยังถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจในการผูกขาดธุรกิจด้วยการบีบผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งสร้างงานส่วนใหญ่ของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีคดีการทุจริต โดยอีแจยอง รองประธานซัมซุง, เชแทวอน ประธาน SK Group และผู้บริหารแชโบลอีกหลายคนล้วนต้องโทษจำคุกในคดีทุจริต
อ้างอิงจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ จำเป็นต้องมีการปฎิรูปแชโบลและกฎหมายป้องกันการผูกขาด ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นและรับฟังความเห็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย อย่างกรณีของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Elliot Management ในสหรัฐฯ ซึ่งถือหุ้นมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในฮุนไดกรุ๊ปที่เรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้างฮุนไดมอเตอร์
ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง มุนสัญญากับประชาชนในหลายประเด็น เขาทำตามข้อผูกพันในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยการแต่งตั้งคิมซังโจ นักเคลื่อนไหวที่มีฉายาว่า “แชโบลสไนเปอร์” จากสื่อเกาหลีใต้ให้มาเป็นประธานคณะกรรมการการค้ายุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังธุรกิจในประเทศ โดยหน่วยงานนี้ตั้งเป้าในการควบคุมการค้าที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งการสืบสวนดีลการค้าที่ผิดกฎหมาย ซึ่งช่วยผลักดันบางแชโบลอย่างฮุนได และซัมซุงให้ประกาศความพยายามในการปรับโครงสร้างบริษัท
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าในตอนนี้ ยังเร็วเกินไปที่จะทำธุรกิจในเกาหลีเหนือ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะยังถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติต่อไปจนกว่ากระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์จะเสร็จสมบูรณ์.