IMF หั่นตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศคู่ค้าเริ่มสงผลกระทบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก
โดย IMF ระบุว่า คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะเติบโตอยู่ที่ 3.7% ในปีนี้และปีหน้า ลดลง 0.2% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ อ้างอิงจากรายงานล่าสุดของ World Economic Outlook ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 9 ต.ค.
โดยรายงาน ซึ่งมีการตีพิมพ์ 2 ครั้งต่อปีในเดือนเม.ย.และต.ค. ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากภาครัฐและภาคเอกชนทั่วโลกสำหรับการประเมินเศรษฐกิจโลกของ IMF โดยฉบับล่าสุดมีการเผยแพร่ให้เจ้าหน้าที่การเงินและมืออาชีพนับพันคนในบาหลี อินโดนีเซีย สำหรับการประชุมประจำปีของ IMF และธนาคารโลก
การทำนายตัวเลขก่อนหน้านี้ ดูจะมองโลกในแง่ดีมากเกินไป เนื่องจากความเสี่ยงจากนโยบายการค้าที่ขัดขวางการเติบโตเริ่มส่งผลกระทบมากขึ้นในปัจจุบัน Maurice Obstfeld ประธานนักเศรษฐศาสตร์ของ IMF ระบุในสุนทรพจน์
“ การค้าในสองภูมิภาคสำคัญมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทั้ง NAFTA ( ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนเป็นข้อตกลงการค้าไตรภาคีใหม่และรอการอนุมัติทางกฎหมาย) และสหภาพยุโรป ( ซึ่งอยู่ในระหว่างการเจรจาเบร็กซิทกับสหราชอาณาจักร) มาตรการภาษีสหรัฐฯที่มีกับจีน และการนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางซัพพลายเชน โดยเฉพาะเมื่อมีมาตรการตอบโต้กันไปมา ” เขาระบุ
“ ผลกระทบของนโยบายการค้าและความผันผวนเกิดขึ้นในระดับเศรษฐกิจพหุภาคี โดยส่งผลร้ายกับบริษัทจำนวนมาก นโยบายการค้าสะท้อนถึงการเมือง และการเมืองที่ยังไม่มั่นคงในหลายประเทศ ทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น ” เขาเสริม
ทั้งนี้ IMF ยังได้ลดตัวเลขคาดการณ์ของปริมาณการค้าทั่วโลก โดยคาดว่าสินค้าและบริการโดยรวมจะเติบโต 4.2% ในปีนี้ และ 4% ในปีหน้า ลดลงมาจากที่มีการประเมินก่อนหน้านี้ 0.6% และ 0.5% ตามลำดับ
และคาดการณ์ว่าสองประเทศมหาอำนาจที่กำลังทำสงครามการค้ากันอยู่ในขณะนี้คือสหรัฐฯและจีน จะมีการเติบโตที่ชะลอตัวลงกว่าที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดย IMF ยังคงตัวเลขการประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.9% และของจีนอยู่ที่ 6.6% ในปีนี้ แต่ระบุว่าเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศจะชะลอตัวลงในปี 2562 โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีตัวเลขเติบโตอยู่ที่ 2.5% และของจีนคือ 6.2%
ตลาดประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่อยู่ภายใต้แรงกดดันในช่วงหลายเดือนมานี้ ถูก IMF หั่นตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจลงอย่างเห็นได้ชัดในรายงาน “ ผลกระทบด้านลบสำหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนารุนแรงขึ้น ถ้าให้พูดอย่างกว้างๆ คือ เราเห็นสัญญาณของการลงทุนและการผลิตที่น้อยลง รวมถึงการเติบโตทางการค้าที่ซบเซาลง ”
โดย IMF ระบุในรายงานว่า มีการปรับลดตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจลงในหลายประเทศ คือ อาร์เจนตินา บราซิล เม็กซิโก อิหร่าน และตุรกี
ทั้งนี้ ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ประสบกับภาวะเงินทุนไหลออกจากประเทศจำนวนมาก เนื่องจากนักลงทุนย้ายเงินลงทุนออกไปจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยอาร์เจนตินาและตุรกีมีปัญหามากที่สุด เนื่องจากสกุลเงินอ่อนค่าลงต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ต่อดอลลาร์สหรัฐฯจากการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของรัฐบาล.