ทรัมป์โวข้อตกลงการค้าใหม่สำคัญสุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า ข้อตกลงการค้าใหม่ที่เพิ่งเห็นพ้องกับแคนาดาและเม็กซิโกเป็นข้อตกลงการค้าที่สำคัญที่สุดสำหรับสหรัฐฯ
โดยผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) จะมาแทนข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ Nafta ซึ่งจะนำงานหลายพันอัตรากลับเข้ามาสู่อเมริกาเหนือ
ในระหว่างการแถลงข่าวในทำเนียบขาว ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าใหม่พิสูจน์ให้เห็นว่า การขู่ด้วยมาตรการภาษีนั้นได้ผล
โดยข้อตกลงใหม่จะครอบคลุมการค้าระหว่างสามประเทศมีมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ที่แท้จริง
นอกจากนี้ ยังเป็นข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯด้วย
ทรัมป์ระบุหลังเขาทวีตก่อนหน้านี้อ้างว่า ข้อตกลงการค้าใหม่จะแก้ไขข้อบกพร่องและความผิดพลาดของ Nafta ซึ่งควบคุมการค้าระหว่าง 3 ประเทศมาตั้งแต่ปี 2537 เขาชี้ว่า ข้อตกลงใหม่จะให้ผลประโยชน์ซึ่งกันและกันมากกว่า Nafta ซึ่งเขาเคยโจมตีว่าบางทีอาจเป็นข้อตกลงที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยทำมา โดยหลายมาตรการในข้อตกลงใหม่จะส่งเสริมงานนับแสนอัตราในสหรัฐฯ
ที่ผ่านมา ทรัมป์มีนโยบาย “Ameria First” และเริ่มทำสงครามการค้ากับจีน รวมถึงมีมาตรการภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา “ ถ้าไม่มีมาตรการภาษี เราจะไม่มีการพูดคุยกันเรื่องข้อตกลงการค้าหรอก ” เขาคุย
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาระบุว่า ข้อตกลงการค้าให้ประโยชน์อย่างลึกซึ้งกับชาวแคนาดา
“ เราต้องประนีประนอม และบางอย่างยากกว่า เราไม่เคยเชื่อว่ามันจะง่าย และมันก็ไม่ง่ายจริงๆ แต่วันนี้เป็นวันดีสำหรับแคนาดา ” ผู้นำแคนาดากล่าว
“ จีนต้องการคุย แย่มาก เราไม่คุยตอนนี้เพราะพวกเขาไม่พร้อม ” เขากล่าวถึงประเทศคู่ค้าอื่นๆที่เคยเข้มงวดกับสหรัฐฯ รวมถึงสหภาพยุโรป ซึ่งมีมาตรการภาษีตอบโต้กับสินค้าสหรัฐฯในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้นำสหรัฐฯคุยว่าเขากำลังมีการเจรจาที่ประสบผลสำเร็จกับทางอียู
ทรัมป์ระบุว่า ถือเป็นอภิสิทธิ์สำหรับประเทศอื่นๆที่ได้ทำการค้ากับสหรัฐฯ “ ดังนั้น เราจึงเจรจาข้อตกลงใหม่นี้ (กับเม็กซิโกและแคนาดา) บนพื้นฐานของความเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ซึ่งกันและกัน สำหรับผม นี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในด้านการค้า เพราะที่ผ่านมา หลายชาติทั่วโลกทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับเรา ” เขาเสริมว่า ข้อตกลงใหม่เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้ง 3 ประเทศ
มีการเผยแพร่รายละเอียดข้อตกลงที่มีจำนวนหลายร้อยหน้าในวันที่ 1 ต.ค.โดยมีการปรับเปลี่ยนสำหรับอุตสาหกรรมนมของแคนาดา และหลายมาตรการที่ตั้งเป้าที่งานในโรงงานผลิตรถยนต์ค่าแรงต่ำของเม็กซิโก โดยเกษตรกรสหรัฐฯจะได้เข้าถึงตลาดผลิตนมของแคนาดา 3.5% มูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ขณะที่มีการกำหนดว่า 40% ของชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในพื้นที่ข้อตกลง USMCA ต้องจ่ายค่าแรง 16 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อชั่วโมง
Meredith Crowley นักเศรษฐศาสตร์การค้าระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ระบุว่า ข้อตกลงเรื่องผลิตภัณฑ์นมดูเหมือน “สัมปานเครื่องสำอาง” โดยเธอชี้ว่า แคนาดาทำได้ดีอยู่แล้วนอกข้อตกลงนี้ เธอชี้ว่า การแทรกแซงค่าแรงขั้นต่ำสำหรับแรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์อาจนำไปสู่ข้อตกลงการค้าอื่นๆ “ ถ้าผลออกมาได้รับความนิยมทางการเมืองในสหรัฐฯ จะมีการใช้อีก”
ทั้งนี้ ทรัมป์ระบุว่า ข้อตกลงนี้เป็นชัยชนะสำหรับเกษตรกร แรงงานผลิตรถยนต์ และอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯ “ นี่หมายถึงงานของคนอเมริกันที่เพิ่มขึ้น และเป็นงานคุณภาพสูง ”