ยอดขายไนกี้พุ่งหลังโฆษณาโดนถล่ม
ยอดขายของบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตสินค้ากีฬาอย่างไนกี้พุ่งขึ้น แม้จะเพิ่งออกแคมเปญโฆษณาที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง โดยใช้ภาพใบหน้าของโคลิน แคเปอร์นิก ควอเตอร์แบคชื่อดังที่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ
โดยยอดขายออนไลน์ของแบรนด์ไนกี้เพิ่มขึ้นถึง 31% ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีการเผยแพร่โฆษณาชิ้นใหม่ อ้างอิงจากบริษัทผู้วิจัย Edison Trends
ตัวเลขยอดขายของไนกี้ทำให้นักวิจารณ์สับสน ก่อนหน้านี้หลายคนสนับสนุนให้ประชาชนทำลายสินค้าของไนกี้เพื่อเป็นการประท้วงที่นำแคเปอร์นิกมาปรากฎตัวในโฆษณาของไนกี้
ในปี 2559 แคเปอร์นิก ดารานักอเมริกันฟุตบอล ปฏิเสธที่จะยืนเคารพเพลงชาติของสหรัฐฯ แต่คุกเข่าลงข้างหนึ่งเพื่อเป็นการประท้วงความโหดร้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจและการเหยียดเชื้อชาติ ทำให้ผู้เล่นอเมริกันฟุตบอลคนอื่นๆทำตามในสนาม เพื่อเป็นการประท้วงการแบ่งแยก และทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่พอใจอย่างมาก เขายังเคยโวยวายให้เจ้าของทีมฟุตบอลไล่ผู้เล่นที่คุกเข่าเคารพเพลงชาติออกไปจากสนาม โดยรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์เองก็เคยลุกออกจากสนาม เมื่อเห็นผู้เล่นบางคนคุกเข่าระหว่างบรรเลงเพลงชาติ
เมื่อบริษัทเผยแพร่แคมเปญโฆษณาล่าสุดที่มีภาพใบหน้าของแคเปอร์นิก ควอเตอร์แบคจากทีม San Francisco 49ers เด่นชัด ภาพที่ปรากฎบนโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมาคือภาพการเผาสินค้าของไนกี้ โดยเฉพาะรองเท้าเพื่อเป็นการประท้วงแนวคิดของไนกี้อย่างชัดเจน
ขณะที่บนทวิตเตอร์ มีการติดแฮชแทก #JustBurnIt ซึ่งเป็นการล้อเลียนสโลแกนของไนกี้คือ Just Do It และได้รับความนิยมอย่างมากจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไปพร้อมๆกับแฮชแทก #BoycottNike
แต่ Edison Trends ระบุว่า ข้อมูลที่มีการเก็งกันว่าแคมเปญโฆษณาของไนกี้จะมีผลทำให้ยอดขายลดลงนั้น ไม่มีมูลความจริง
“ผลการวิจัยยืนยันว่า ยอดขายของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบด้านลบจากแคมเปญโฆษณาล่าสุด อย่างน้อยก็ในตอนนี้” บริษัทระบุ
Edison ระบุว่า ยอดขายในวันที่ 2 – 4 ก.ย.ซึ่งรวมถึงวันหยุดคือ Labor Day ในวันที่ 3 ก.ย. ดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ที่ยอดขายออนไลน์เติบโต 17%
ทั้งนี้ ตัวเลขของบริษัทวิจัยมีการจัดทำอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ใบเสร็จรับเงินทางอีเมล
ในงานเปิดตัวแคมเปญโฆษณา ไนกี้ชื่นชมและบรรยายแคเปอร์นิกว่า เป็นนักกีฬาที่เป็นแรงบันดาลใจมากที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้
แต่เขาไม่ได้เล่นในลีกอเมริกันฟุตบอลแห่งชาติ หรือ NFL ตั้งแต่ปีที่แล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการฟ้องร้องเจ้าของทีมที่สั่งปลดเขาออกจากทีมเพราะความเคลื่อนไหวในประเด็นการต่อต้านการแบ่งแยกเชื้อชาติ.