ร.ร.ปาเลสไตน์เปิดแม้สหรัฐฯตัดงบช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 29 ส.ค.เด็กๆชาวปาเลสไตน์นับหมื่นคนกลับไปเรียนที่ร.ร.ของสหประชาชาติหลังปิดเทอมฤดูร้อน ถึงแม้สหรัฐฯจะประกาศตัดงบช่วยเหลือในเดือนก.ย.แล้ว
โดยเด็กน.ร.ในชุดยูนิฟอร์มพร้อมเป้สะพายหลังต่างพากันเดินทางไปทั่วอาณาเขตของปาเลสไตน์เพื่อไปร.ร.ในวันเปิดเทอมวันแรก อ้างอิงจากการรายงานของสื่อ AFP
สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ (UNRWA) ระบุว่าร.ร.ทั้ง 711 แห่งที่เปิดทำการสอนให้กับเด็กๆ 526,000 คนในฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ จอร์แดน เลบานอน และซีเรียจะเปิดทำการสอนอีกครั้งในอีก 2-3 วันข้างหน้า ถึงแม้สหรัฐฯจะตัดงบประมาณช่วยเหลือจำนวน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯลงแล้วก็ตาม
มีความกังวลเกิดขึ้นจากอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติว่า ร.ร.อาจไม่สามารถเปิดทำการสอนได้อีกหากขาดแคลนอุปกรณ์ และ UNRWA เตือนว่า ร.ร.อาจถูกบีบให้ต้องปิดตัวลงอีกครั้งภายในหนึ่งเดือนหากไม่มีเงินสนับสนุนเข้ามาเพิ่มเติม
“ ในเวลานี้ เราไม่มีเงินเพียงพอที่จะคงสภาพให้ร.ร.เปิดทำการสอนต่อไปได้หลังเดือนก.ย.” Chris Gunness โฆษกของ UNRWA แถลง
“ ช่วงสิ้นเดือนก.ย. UNRWA จะหมดงบสำหรับการให้ความช่วยเหลือในทุกบริการ รวมทั้งร.ร.และบริการทางการแพทย์ ”
ในปี 2560 สหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดสำหรับ UNRWA ได้บริจาคให้มากกว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่จนถึงตอนนี้ สหรัฐฯให้เงินมาเพียง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจที่จะระงับความช่วยเหลือแก่ปาเลสไตน์
บรรดาผู้ปกครองแสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการศึกษาของลูกๆของพวกเขา
“ เรากลัวว่าร.ร.จะปิด ” Soha Abu Hasara กล่าวในเมืองกาซาในวันที่เธอมาส่งลูกของเธอในวันเปิดเทอมวันแรก
“ มีความกลัวอยู่และสถานการณ์ไม่มีเสถียรภาพ และมีความตึงเครียดภายใน UNRWA ” เธอกล่าว
ทั้งนี้องค์กร UNRWA ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อให้การช่วยเหลือสนับสนุนชาวปาเลสไตน์มากกว่า 700,000 คนที่อพยพหลบหนี หรือถูกขับไล่ออกมาจากบ้านของพวกเขาในระหว่างสงครามปี 2491 ซึ่งเป็นช่วงการสร้างประเทศอิสราเอล
โดยชาวปาเลสไตน์ รวมกับลูกหลานของพวกเขา ตอนนี้เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นมากกว่า 3 ล้านคนทั่วทั้งตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ สหรัฐฯพยายามหาหนทางที่จะใช้งบช่วยเหลือเป็นช่องทางในการกดดันรัฐบาลปาเลสไตน์ให้ทำตามข้อตกลงหลังจากแตกแยกกันมานานเกือบ 9 เดือน
ชาวปาเลสไตน์บอยคอตรัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศรับรองนครเยรูซาเล็มให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอลเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการกลับลำนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่มีมานานหลายทศวรรษ และเขายังให้มีการย้ายสถานทูตสหรัฐฯ มาที่เมืองนี้ด้วย
ในสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ยกเลิกงบประมาณจำนวน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในโครงการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ในเวสต์แบงก์และฉนวนกาซาที่ไม่ได้ผ่านทาง UNRWA โดยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้แจงว่า การควบคุมฉนวนกาซาของกลุ่มก่อการร้ายฮามาส เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาที่จะปรับเปลี่ยนงบช่วยเหลือไปที่อื่น เนื่องจากสหรัฐฯและอิสราเอลมองว่าฮามาสเป็นกลุ่มก่อการร้าย
ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของปาเลสไตน์อย่าง Hanan Ashrawi กล่าวหาผู้นำสหรัฐฯว่า ใช้วิธีการแบล็คเมล์ราคาถูกมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง.