ภาพชี้เกาหลีเหนือหยุดรื้อฐานทดสอบอาวุธ
ภาพถ่ายดาวเทียมจากสัปดาห์ที่แล้วชี้ว่า เกาหลีเหนือระงับการทำลายสถานที่ทดสอบยิงขีปนาวุธในช่วงต้นเดือนส.ค. แม้จะมีสัญญาที่ทำไว้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการประชุมสุดยอดผู้นำเมื่อเดือนมิ.ย. สำนักคิดในวอชิงตันรายงานเมื่อวันที่ 22 ส.ค.
โดยโครงการของสำนักคิด 38 North ระบุว่า ภาพถ่ายดาวเทียมของสถานียิงดาวเทียม Sohae ที่ถ่ายได้เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ชี้ว่า ไม่มีกระบวนการทำลายฐานที่เห็นได้ชัดเจน ทั้งฐานทดสอบอุปกรณ์ หรือฐานยิงตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.
ไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯระบุเมื่อเดือนก.ค.ว่า รายงานที่ว่าเกาหลีเหนือเริ่มรื้อทำลายสถานที่ทดสอบอาวุธจากภาพถ่ายดาวเทียมสอดคล้องกับข้อผูกพันที่ประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือทำไว้กับประธานาธิบดีทรัมป์ในการประชุมที่สิงคโปร์เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.
สำนักคิด 38 North ระบุว่า กระบวนการรื้อทำลายฐานทดสอบขีปนาวุธมีขึ้นในเดือนก.ค. จนถึงต้นเดือนส.ค. แต่เสริมว่า “ ชิ้นส่วนที่มีการรื้อถอนออกก่อนหน้านี้ยังคงระเกะระกะอยู่บนพื้น”
มีรายงานของ 38 North เกิดขึ้นในเวลาที่มีความข้องใจอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเจตนาของเกาหลีเหนือที่จะทำตามความต้องการของสหรัฐฯในการยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ยังไม่มีความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้จากทำเนียบขาว
ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ( IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ว่า ยังไม่พบสัญญาณที่ชี้ว่าเกาหลีเหนือหยุดกิจกรรมที่เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์
ในการประชุมที่สิงคโปร์ ประธานาธิบคิมตกลงในเงื่อนไขกว้างๆที่จะให้ความร่วมมือในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเขามีความตั้งใจจะยกเลิกคลังแสงของประเทศแต่เพียงฝ่ายเดียว
ในการให้สัมภาษณ์กับรอยเตอรืเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ผู้นำสหรัฐฯกล่าวปกป้องความพยายามที่จะโน้มน้าวเกาหลีเหนือให้ยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ โดยระบุว่า เขาเชื่อว่าเกาหลีเหนือมีก้าวสำคัญในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ เขายังได้กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าเขาจะได้พบกับผู้นำของเกาหลีเหนืออีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม สมาชิกหลายคนในคณะเจรจาของสหรัฐฯระบุว่า พวกเขายังไม่เห็นกระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และไม่มีสัญญาณว่าเกาหลีเหนือเตรียมพร้อมที่จะมีการเจรจาอย่างจริงจังจนกระทั่งสหรัฐฯสัญญาว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรเป็นการตอบแทน
ในสัปดาห์ที่แล้ว สื่อภาครัฐของเกาหลีเหนือกล่าวโทษว่า ขาดกระบวนการพูดคุยกับคณะเจรจาของสหรัฐฯตั้งแต่การประชุม และระบุว่าการปลดล็อกต้องการการตัดสินใจอย่างกล้าหาญในส่วนของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยบทความในหนังสือพิมพ์ซินมุนเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ระบุว่า ผู้ที่คัดค้านการพูดคุยพยายามจะทำให้การพูดคุยล้มเหลวโดยอ้างอิงอย่างไร้หลักฐานเกี่ยวกับฐานทดสอบนิวเคลียร์ลับในเกาหลีเหนือ
ทางการสหรัฐฯพยายามที่จะโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางเปียงยางปฏิเสธที่จะทำในการเจรจาที่ล้มเหลวหลายรอบในอดีต
จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีทรัมป์ระบุในเดือนส.ค.นี้ว่า เปียงยางไม่ได้มีกระบวนการที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่นิกกี เฮลีย์ ทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติระบุว่า ทางวอชิงตันไม่มีเจตนาจะรอนาน
โดยโบลตันระบุว่า ทรัมป์ระบุในจดหมายถึงผู้นำเกาหลีเหนือว่า เขาเสนอที่จะส่งรมว.ปอมเปโอกลับมาเจรจาที่เกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นการเยือนครั้งที่ 4 ของเขาในปีนี้ และประธานาธิบดีทรัมป์พร้อมที่จะพบกับประธานาธิบดีคิมอีกครั้งทุกเมื่อ.