ยอดขายแอร์เมสยังโต
แอร์เมส อินเตอร์เนชั่นแนลคาดการณ์ว่า กำไรจากผลประกอบการของบริษัทจะใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่มียอดเติบโตสูงเป็นประวัติการณ์
โดยผู้ผลิตกระเป๋าถือแบรนด์หรูโพสต์ยอดขายในไตรมาส 2 ที่แข็งแกร่ง และตัวเลขไปได้ดีสำหรับสินค้าหรูหราในภาคส่วนอื่นของบริษัท
ยอดขายของแอร์เมสที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในจีนแสดงให้เห็นถึงดีมานด์ของสินค้าหรูหราที่ยังไปได้ดี แม้ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนจะชะลอตัวลงและกำลังอยู่ในภาวะสงครามการค้าที่ตึงเครียดกับสหรัฐฯ
แอร์เมส ซึ่งกระเป๋า Berkin มีมูลค่าสูงกว่ารถยนต์คันเล็กๆหนึ่งคัน ระบุว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 7.2% เป็น 1,460 ล้านยูโร หรือราว 56,005 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 2 ที่สิ้นสุดเดือนมิ.ย.
ยอดขายเติบโตขึ้น 12% จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่คงที่ ปรับเพิ่มขึ้นจาก 11% ในไตรมาสก่อน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเติบโต 10%
โดยยอดขายในจีนยังคงเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในช่วง 2 – 3 ปีมานี้ Axel Dumas ประธานกรรมการบริหารกล่าวกับผู้สื่อข่าว
ดีมานด์ในจีนไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจมหภาค เขากล่าว โดยเสริมว่า สงครามการค้าจีน – สหรัฐฯ ยังไม่มีผลกระทบในทันทีกับแอร์เมส
“ เรามีลูกค้าที่เดินทาง ” เขากล่าว “ สงครามการค้าอาจแย่สำหรับทุกคน แต่ผมไม่อยากให้เป็นสงครามการค้าเลย แต่ผมไม่คิดว่าเราจะเป็นบริษัทแรกที่ได้รับผลกระทบ ”
จากสภาพตลาดที่เติบโตในจีนและการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดอื่น บริษัทคาดการณ์ว่า กำไรจากผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จะใกล้เคียงกับรายงานในครึ่งปีแรกของปีที่แล้วที่สูงเป็นประวัติการณ์
ต้นเดือนส.ค.นี้ สินค้าแบรนด์หรู Burberry จากอังกฤษรายงานยอดขายประจำไตรมาสที่เติบโตเพิ่มขึ้น และตัวเลขเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ผลิตสินค้าหรูหราแบรนด์อื่น อย่าง LVMH, GUCCI และ Hugo Boss ซึ่งล่้วนแต่พึ่งพาตลาดเอเชียเป็นหลัก
แอร์เมสจะรายงานตัวเลขการเงินสำหรับครึ่งปีแรกในวันที่ 12 ก.ย. โดยบริษัทเสริมว่า ผลกำไรในช่วงครึ่งปีแรกได้แรงหนุนจากยอดขายของแอร์เมสจากสโตร์ในฮ่องกง
Dumas กล่าวว่า แอร์เมสลดราคาสินค้าที่จำหน่ายในจีนลง 1% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. หลังจากรัฐบาลจีนลดภาษีสินค้านำเข้า
นอกจากนี้ แอร์เมส ซึ่งทำรายได้สูงสุดจากสินค้าเครื่องหนัง ยังได้โพสต์ตัวเลขเติบโตที่แข็งแกร่งในสินค้าประเภทอื่น ทั้งสินค้าแฟชั่น น้ำหอม และธุรกิจเครื่องประดับอีกด้วย
ทั้งนี้ ในเดือนพ.ค.หุ้นของแอร์เมสพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 609.45 ยูโร หรือราว 23,378 บาทปรับสูงขึ้นมาประมาณ 20% ในปีนี้.