ทรัมป์เซ็นกฎหมายหยุดดีลต่างชาติได้
สหรัฐฯผ่านกฎหมายฉบับใหม่ที่ให้อำนาจรัฐบาลในการพิจารณาทบทวน และสามารถหยุดดีลธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริษัทต่างชาติได้
เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯลงนามในกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งส่วนหนึ่งเน้นให้งบประมาณในการใช้จ่ายของกองทัพสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น โดยมาตรการนี้ได้แรงผลักดันจากความกังวลของสหรัฐฯที่ว่า ปัจจุบัน บริษัทหลายแห่งของจีนกำลังใช้วิธีการลงทุนและการเข้าซื้อกิจการเพื่อให้ได้เข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ของสหรัฐฯ
กฎหมายฉบับใหม่นี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งส.ส.พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสในปีนี้ โดยหลักการของกฎหมายเหมือนกับของประเทศอื่นๆ รวมทั้งสหราชอาณาจักร ที่มีการให้อำนาจหน่วยงานรัฐบาลทบทวนด้วยความเข้มงวดกับดีลธุรกิจของต่างชาติ โดยเฉพาะบริษัทของจีนที่มุ่งเข้ามาซื้อกิจการบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ
โดยกฎหมายใหม่จะทำให้มีการทบทวนดีลโดยคณะกรรมการการลงทุนจากต่างชาติในสหรัฐฯ (CFIUS) ซึ่งจะพิจารณาการลงทุนในประเด็นที่ว่ามีความเสี่ยงกับความมั่นคงของชาติหรือไม่ ตัวอย่างเช่น กฎหมายให้อำนาจคณะกรรมการในการพิจารณาว่าการทำธุรกรรมนั้นส่งผลกระทบกับข้อมูลส่วนตัวและความมั่นคงทางไซเบอร์หรือไม่ และการลงทุนนั้นให้สิทธิต่างชาติสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญที่ไม่ใช่สาธารณะหรือไม่
นอกจากนี้ยังให้อำนาจในการควบคุมการส่งออก ซึ่งทำให้สหรัฐฯ สามารถทบทวนดีลต่างประเทศ เช่น การลงทุนร่วมได้
ในกฎหมายใหม่ ไม่ได้มีการระบุชื่อประเทศจีนเป็นการเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม กฎหมายให้อำนาจกับ CFIUS ในการพิจารณาการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับความกังวลเป็นพิเศษของประเทศที่แสดงให้เห็น หรือเปิดเผยเป้าหมายในทางกลยุทธ์ที่เป็นการเข้าครอบครองเทคโนโลยีสำคัญ หรือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
โดย Steven Mnuchin รมว.กระทรวงการคลังสหรัฐฯระบุว่า เขาขานรับกฎหมายใหม่นี้ด้วยความยินดี
ถึงแม้ไม่มีกฎหมายใหม่ ความเข้มงวดเคร่งครัดของสหรัฐฯ ที่มีต่อการทำธุรกรรมของจีนก็ดูจะมีท่าทีที่บั่นทอนความสนใจของนักลงทุนให้ลดลงอยู่ก่อนแล้ว
บริษัทจีนมีการทำข้อตกลงทางธุรกิจในสหรัฐฯสำเร็จลุล่วงมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี และลดลงมากกว่า 90% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 อ้างอิงจากรายงานของบริษัทวิจัยของสหรัฐฯ Rhodium Group
โดย Rhodium พบว่า หน่วยงานที่กำกับดูแลของสหรัฐฯ สกัดกั้นดีลการลงทุนจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 นี้ ซึ่งรวมถึงการขายบริษัทโอนเงินของสหรัฐฯให้ Ant Financial ซึ่งเป็นบริษัทจ่ายเงินระบบดิจิทัลในเครือของอาลีบาบา และการเข้าซื้อกิจการ Skybridge Capital โดย HNA
ทั้งนี้ การลงทุนจากต่างชาติในสหรัฐฯลดฮวบลงถึง 32% เมื่อเทียบกับปี 2559 – 2560 ที่มีมูลค่าสูงถึง 260,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ.