ญี่ปุ่นเตรียมรับมือไต้ฝุ่น ”ชานชาน”
ไต้ฝุ่นกำลังแรงเคลื่อนตัวเข้าสู่ญี่ปุ่นในวันที่ 8 ส.ค. ทำให้สำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นต้องประกาศเตือนฝนตกหนักและลมกระโชกแรง และสายการบินหลายแห่งจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนหนึ่ง
มีการคาดการณ์ว่าไต้ฝุ่นชานชานจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้กรุงโตเกียวราว 150 กม. ในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 8 ส.ค. ทำให้ผู้คนในตัวเมืองเกิดความกังวลเกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานในเช้าของวันถัดไป
ทางสำนักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ไต้ฝุ่นดังกล่าวกำลังเดินทางมาใกล้กับชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งอยู่ทางภูมิภาคตะวันออกของญี่ปุ่นมาก โดยจะมุ่งหน้าไปทางกรุงโตเกียว และคาดว่าไต้ฝุ่นลูกดังกล่าวจะเคลื่อนตัวไปยังจังหวัดทางเหนือในคืนวันที่ 8 ส.ค. และเช้าของวันที่ 9 ส.ค. อีกด้วย
ทางสำนักงานระบุว่า “ ไต้ฝุ่นลูกนี้อาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดดินถล่มอีกด้วย ” โดยได้ออกเตือนว่า ไต้ฝุ่นชานชานอาจมาพร้อมฝนที่มีปริมาณสูงถึง 350 มม. ทั่วทั้งภูมิภาคโตเกียวภายในระยะเวลา 24 ชม. ในช่วงกลางวันของวันที่ 9 ส.ค.
นอกจากนี้ยังระบุผ่านแถลงการณ์ เพื่อกระตุ้นให้ผู้อยู่อาศัยทำตามคำแนะนำในการอพยพต่าง ๆ “ โปรดตื่นตัวเมื่อมีการเตือนเกี่ยวกับดินถล่ม น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่ม แม่น้ำเอ่อท่วม ลมกระโชกแรง คลื่นและกระแสน้ำก่อตัวขึ้นสูง ”
ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในภูมิภาคจิบะ ใกล้กับทางตะวันออกของกรุงโตเกียว ได้ออกเตือนการอพยพระดับต่ำที่สุดสำหรับผู้อยู่อาศัยบางราย และได้กระตุ้นให้บางส่วนรอฟังคำสั่งอพยพในภายหลังต่อไป
เนื่องจากฝนและลมที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในวันที่ 8 ส.ค.ทางเครือข่ายโทรทัศน์ของญี่ปุ่นได้จึงได้เร่งให้ชาวโตเกียวเดินทางกลับบ้านเร็วขึ้นกว่าปกติ
พายุที่เคลื่อนตัวช้ามีกำลังกระโชกสูงสุดที่ 180 กม/ชม. และมีกำลังสูงสุดโดยประมาณถึง 250 กม./ชม. เมื่อเดินทางถึงพื้นที่ส่วนตะวันออกเฉียงใต้ของโตเกียวเมื่อเช้า (06.00 น.) ของวันที่ 8 ส.ค.
สายการบินหลายแห่งประกาศยกเลิกเที่ยวบินจำนวนหนึ่ง ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและออกนอกประเทศ ที่เดินทางไป หรือ จากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ทางตะวันออกของกรุงโตเกียว
กลุ่มบริษัท ANA ได้ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 36 เที่ยวบิน ที่เดินทางจากนาริตะสู่เซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง ส่วนสายการบินแอร์ นิวซีแลนด์ ได้ยกเลิกเที่ยวบินไปกลับโอ๊คแลนด์-นาริตะ แล้ว
ไต้ฝุ่นชานชานถือเป็นแนวปะทะล่าสุดที่เข้าโจมตีญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องเผชิญคลื่นอากาศที่ร้อนเป็นประวัติการณ์ ตามมาด้วยฝนตกหนักในส่วนใจกลางและทางตะวันตกของประเทศช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
เนื่องจากฝนที่ตกหนักจนทำให้เกิดอุทกภัยและดินถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 ราย และสร้างความเสียหายรุนแรงเป็นวงกว้างให้กับญี่ปุ่น