บริษัทยักษ์ใหญ่รับมือแผนภาษีทรัมป์
บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในสหรัฐฯ ทั้งอเมซอน โตโยต้า และ Alcoa กำลังบริหารจัดการเพื่อรับมือกับผลกระทบจากนโยบายการค้าและมาตรการภาษีใหม่ของรัฐบาล
โดยหลายบริษัทพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์โดยตรง แต่พยายามจะใช้อิทธิพลเท่าที่ทำได้เพื่อโน้มน้าวไม่ให้ผู้นำสหรัฐฯ ฉีกข้อตกลงทางการค้า หรือมีมาตรการภาษีที่จะส่งผลกับการนำเข้าสินค้าในวงกว้าง
อเมซอน บริษัทค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดในโลก และผู้ให้บริการระบบคลาวด์ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากภาษีที่มีต่อสินค้าที่ขายอยู่บนเว็บไซต์ของบริษัท และชิ้นส่วนสำหรับศูนย์ข้อมูล กำลังพูดคุยกันในแคมเปญโฆษณาของอุตสาหกรรมในวงกว้าง สื่อรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวผู้ไม่ประสงค์ออกนามที่เกี่ยวข้องในประเด็นนี้ ขณะที่อเมซอนปฏิเสธที่จะให้ความเห็น
โตโยต้ามอเตอร์ อเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นบริษัทสาขาของโตโยต้า ญี่ปุ่น และอาจได้รับผลกระทบหากทรัมป์ดำเนินการตามแผนที่จะจัดเก็บภาษีเพิ่มกับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้า แรงงานจำนวนหนึ่งเดินทางไปกรุงวอชิงตันเพื่อประท้วงในสัปดาห์นี้หน้าอาคารรัฐสภา ขณะที่ผู้บริหารได้เข่าพบสมาชิกสภาคองเกรสคนสำคัญในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้เพื่อพูดคุยถึงผลกระทบที่รุนแรงจากภาษี
ผู้บริหารจากเจเนรัล มอเตอร์ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบหากทรัมป์ถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือหากเขาบังคับใช้มาตรการภาษีกับรถยนต์ ได้มีการประชุมกับรัฐมนตรีและสมาชิกสภาคองเกรสตลอดปีที่ผ่านมาเพื่อชี้แจงถึงความกังวลในประเด็นการค้า กำแพงภาษีจะส่งผลต่อยอดขายในประเทศและต่างประเทศ บริษัทระบุเมื่อเดือนมิ.ย.
โดยบริษัทซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของรัฐบาลทรัมป์แล้ว ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ก.ค.จะได่รับการผ่อนปรนเป็นส่วนตัว
ขณะที่ซีอีโอของ Alcoa กล่าวกับนักลงทุนในการประชุมทางไกลในสัปดาห์นี้ว่า ผู้ผลิตอะลูมิเนียมกำลังมีการพูดคุยกับคณะทำงานของทรัมป์
กระทรวงพาณิชย์ และสมาชิกสภาคองเกรสเกี่ยวกับการยกเลิกภาษี หรือยกเว้นให้อะลูมิเนียมจากแคนาดา
Alcoa ระบุในสัปดาห์นี้ว่าบริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 14 ล้านดอลลาร์/สัปดาห์ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการนำเข้าอะลูมิเนียมจากแคนาดา ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุด
นอกจากจะปรับขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมแล้ว รัฐบาลทรัมป์ยังประกาศจะขึ้นภาษีอีก 10% มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์กับสินค้านำเข้าจากจีนซึ่งจะส่งผลกระทบกับสินค้านับพันรายการ ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงเราท์เตอร์
อเมซอน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในซีแอตเทิลแสดงความกังวลว่า ภาษีที่ปรับขึ้นจะส่งผลต่อนักช้อปในระหว่างช่วงวันหยุดเทศกาลสำคัญซึ่งเป็นช่วงพีคของการช้อป โดยอเมซอนมีสินค้ามากมาย บางชนิดมีมูลค่าสูง และภาษีจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ อ้างอิงจากแหล่งข่าว
นอกจากนี้ อเมซอนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการนำเข้าชิ้นส่วนที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล หรือบางสิ่งที่ทำให้ระบบคลาวด์ลดทอนความสามารถในการแข่งขันลง เนื่องจากอเมซอนเว็บเซอร์วิสเป็นส่วนที่ทำกำไรมากที่สุดของบริษัท
อเมซอนไม่ใช่บริษัทเดียวในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มีความกังวล “ เป็นเรื่องยากที่จะคิดว่า หลายบริษัทของเราไม่มีความเสี่ยงและไม่ได้รับผลกระทบจากภาษี ” Dean Garfield ประธานกรรมการบริหารสมาพันธ์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศระบุ ซึ่งมีสมาชิกทั้งอเมซอน ไมโครซอฟต์ อัลฟาเบต บริษัทแม่ของกูเกิล และบริษัทอื่นๆ
การล็อบบี้คณะรัฐบาลและสมาชิกสภาคองเกรสอาจมีค่าใช้จ่ายสูง โดยไม่มีการรับประกันถึงชัยชนะ แต่บางรายก็ประสบความสำเร็จ โดยแอปเปิลได้รับการการันตีจากรัฐบาลทรัมป์ว่า ไอโฟนที่ส่งมาจากจีนจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาษี นิวยอร์กไทม์รายงานเมื่อสัปดาห์ก่อน.