สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนเดือด
คำขู่ของผู้นำสหรัฐฯเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่จะจัดเก็บภาษีในอัตรา 10% กับสินค้าของจีนเพิ่มเติมอีกมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบกับภาคส่งออกของจีน
โดยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกจัดเก็บภาษีในอัตราใหม่แสดงให้เห็นว่า ทางวอชิงตันตั้งเป้ากับอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อส่งออกของจีน อ้างอิงจากความเห็นของ Rajiv Biswas หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชีย แปซิฟิกที่ IHS Markit นอกจากภาษีจะส่งผลกับสินค้าหลายประเภทของจีน ทั้งตู้เย็น ฝ้าย ผลิตภัณฑ์เหล็กและอลูมิเนียมแล้ว คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังพุ่งเป้าที่สินค้าอื่นๆของจีน ทั้งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์โลหะ และอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนรถยนต์
“ สหรัฐฯเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับจีน คิดเป็น 19% ของยอดส่งออกทั้งหมดของจีน หากสหรัฐฯยกระดับมาตรการภาษีกับสินค้าจีนเพิ่มเติมอีก 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หมายความว่าประมาณครึ่งหนึ่งของสินค้าส่งออกของจีนไปสหรัฐฯจะต้องเผชิญกับมาตรการลงโทษทางภาษีจากสหรัฐฯ ” Biawas ระบุในแถลงการณ์
“ ดังนั้น ภาคส่งออกของจีนจะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ และทำให้จีนสูญเสียความสามารถในการแข่งขันเพื่อการส่งออกไปสหรัฐฯ ให้กับประเทศผู้ส่งออกจากตลาดเกิดใหม่ เช่น เวียดนาม เกาหลีใต้ ไทย บังคลาเทศ เม็กซิโก และบราซิล” เขาเสริม
“ การคัดเลือกสินค้าจีนที่จะถูกจัดเก็บภาษีอัตราใหม่ ได้ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียกับประเทศตัวเอง และส่งผลกระทบกับผู้บริโภคในสหรัฐฯ น้อยที่สุด ” Vishnu Varathan หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์และกลยุทธ์ของธนาคารมิซูโฮกล่าวให้ความเห็น แต่เสริมว่า ทางสหรัฐฯต้องอธิบายว่าทำไมโทรศัพท์มือถือจึงได้รับการยกเว้นจากภาษีใหม่นี้
โดยผู้เชี่ยวชาญของธ.มิซูโฮคนนี้ระบุว่า การยกเว้นในส่วนนี้อาจสะท้อนถึงเจตนาของสหรัฐฯ ที่จะโจมตีโครงการ ‘ Made in China 2025 ’ ของจีน ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ที่จะทำให้จีนเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสำคัญทั่วโลก
แผนยุทธศาสตร์นี้ของจีนเป็นหลักในความพยายามที่จะเพิ่มมูลค่าและดำเนินตามวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่จะผลักดันให้จีนเป็นประเทศที่แผ่ขยายอำนาจไปทั่วโลกภายในปี 2050
ภายใต้แผนนี้ ทางปักกิ่งต้องการให้ซัพพลายเออร์ของจีนครองส่วนแบ่งของตลาดให้ได้ 70% ภายใน 7 ปีหน้าสำหรับชิ้นส่วนอุปกรณ์พื้นฐานและวัสดุพื้นฐานสำคัญ ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของจีนท่านหนึ่งให้ข้อมูลว่า เป้าหมายอีกข้อคือการผลิตชิปของโทรศัพท์มือถือภายในประเทศให้ได้ 70% ของตลาด
อ้างอิงจากความเห็นของ Biswas มีบางปัจจัยที่อาจบรรเทาความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของจีนโดยรวม
โดยอัตราภาษีที่ต่ำกว่า 10% จะช่วยลดทอนผลกระทบ ทำให้ค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนลง ซึ่งจะเป็นการชดเชยการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันสำหรับผู้ส่งออกจีนจากภาษีของสหรัฐฯที่สูงขึ้น ซึ่งหมายความว่า ในที่สุดแล้ว สินค้าจีนจะราคาถูกกว่าสินค้าของอเมริกัน
นอกจากนี้ ถึงแม้สหรัฐฯจะเป็นตลาดส่งออกสำคัญของจีน แต่ยังมีสัดส่วนคิดเป็นเพียง 19% ของยอดส่งออกโดยรวมของจีน
“ ดังนั้น การส่งออกโดยรวมของจีนไม่ได้พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ แบบสูงลิ่ว แม้ตลาดสหรัฐฯจะมีความสำคัญกับอุตสาหกรรมส่งออกของจีนอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม ” Biswas กล่าว
การใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศจีนในช่วงหลายปีมานี้ โดยการบริโภคในประเทศคิดเป็น 78% ของการเติบโตในไตรมาสแรกของปีนี้.