สตาร์บัคส์เลิกใช้หลอดพลาสติก
แบรนด์กาแฟยักษ์ใหญ่อย่างสตาร์บัคส์ประกาศเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ว่า จะเลิกใช้หลอดพลาสติกในทุกร้านของสตาร์บัคส์ภายในปี 2563
โดยบริษัทระบุว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้จะช่วยให้สตาร์บัคส์สามารถกำจัดหลอดพลาสติกได้มากกว่า 1 พันล้านหลอดต่อปี
ทั้งนี้ หลอดพลาสติกเป็นมลพิษทางทะเล และเป็นอันตรายต่อชีวิตสัตว์ทะเล และรัฐบาลบางประเทศเริ่มยกเลิกการใช้หลอดพลาสติกแล้ว
เพื่อเป็นการยกเลิกการใช้หลอด สตาร์บัคส์จะเปลี่ยนลักษณะแก้วจากที่มีฝาปิดแบนๆ มาเป็นฝาปิดแบบที่ลูกค้าดื่มจากแก้วได้เลย
ขณะที่เครื่องดื่มแฟรปปูชิโนจะยังคงใช้ฝาโค้งแบบโดมอยู่ แต่จะใช้หลอดที่ทำจากกระดาษ หรือพลาสติกที่ย่อยสลายได้แทน โดยผู้ดื่มกาแฟที่ต้องการใช้หลอดสำหรับเครื่องดื่มชนิดอื่นสามารถขอหลอดแบบใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ โดยเครื่องดื่มบางชนิดของสตาร์บัคส์ เช่น เครื่องดื่มเย็นพร้อมฟองโฟมจะเสิร์ฟในถ้วยพร้อมฝาที่ไม่มีหลอด
สตาร์บัคส์จะเริ่มใช้ฝาปิดแก้วใหม่สำหรับเครื่องดื่มทั้งหมดในฤดูใบไม้ผลินี้ โดยจะเริ่มจากร้านในเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา และซีแอตเทิล สหรัฐฯ
ในแถลงการณ์ ซีอีโอ เควิน จอห์นสัน ของสตาร์บัคส์ระบุว่า ความเคลื่อนไหวด้านหลอดพลาสติกเป็นหลักการที่สำคัญในความพยายามของบริษัท โดยสตาร์บัคส์ให้คำมั่นที่จะใช้เงินจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 331.9 ล้านบาท ในการพัฒนาแก้วที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ และย่อยสลายได้สำหรับเครื่องดื่มร้อน
บริษัทอื่นๆก็มีการประกาศห้ามใช้หลอดพลาสติกเช่นกัน
โดยกลุ่มบริษัท Hyatt ประกาศเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ว่า หลอดพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวและที่คนเหล้าจะให้กับลูกค้าที่ขอเท่านั้นที่โรงแรมเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. และบริษัทมีแผนจะหยุดการใช้หลอดพลาสติกทั้งหมดโดยสมบูรณ์
ในเดือนมิ.ย.แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่อย่างแมคโดนัลด์ระบุว่า จะเริ่มเปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ในเดือนก.ย.นี้ โดยกระบวนการเปลี่ยนผ่านจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2562 โดยแมคโดนัลด์ประกาศถึงแผนนี้หลังรัฐบาลสหราชอาณาจักรเสนอห้ามไม่ให้มีการใช้หลอดพลาสติกในประเทศเมื่อเดือนเม.ย. ขณะที่ในเดือนพ.ค. สหภาพยุโรปเสนอให้มีการห้ามใช้พลาสติกหลายรายการ รวมถึงหลอดพลาสติกด้วย
ในสหรัฐฯ รัฐบาลท้องถิ่นได้มีการสั่งห้ามแล้วในบางพื้นที่ โดยซีแอตเทิลห้ามใช้หลอดพลาสติกและเครื่องใช้ต่างๆที่เป็นพลาสติกมีผลตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ในโอ๊กแลนด์และเบิร์กลีย์ แคลิฟอร์เนีย และเมืองอื่นๆก็มีประกาศห้ามใช้หลอดแบบใช้แล้วทิ้งเช่นกัน
รัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุว่า นก 1 ล้านตัวและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลกว่า 100,000 ตัวตายในแต่ละปีจากการกินและติดอยู่กับขยะพลาสติก
“ หลอดพลาสติกที่ตกค้างในทะเลของเราส่งผลกระทบร้ายแรงกับสัตว์หลากหลายพันธุ์ ” เอริน ไซมอน ผอ.การวิจัยและพัฒนาเพื่อความยั่งยืนและวัสดุศาสตร์ที่กองทุนสัตว์ป่าโลกในสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ “ เราหวังว่าคนอื่นๆจะดำเนินตามรอย (ของสตาร์บัคส์) ”
สตาร์บัคส์ระบุว่า บริษํทเป็นผู้ค้าปลีกด้านอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดที่สัญญาว่าจะกำจัดหลอดพลาสติกให้หมดไปจากร้าน
นิโคลัส มัลลอส ผอ.โครงการปลอดขยะในทะเลขององค์กรอนุรักษ์มหาสมุทรยกย่องการตัดสินใจของสตาร์บัคส์ว่ เป็น ‘ตัวอย่างที่ส่องประกาย’ ว่าบริษัทสามารถต่อสู้กับมลพิษในมหาสมุทร
“ ขยะพลาสติก 8 ล้านตันที่ไหลลงมาสู่มหาสมุทรทุกปี เราไม่อาจปล่อยให้อุตสาหกรรมทำได้แค่มองดูอยู่เฉยๆ ได้” เขาระบุในแถลงการณ์.