ญี่ปุ่นยังวิกฤต เสียชีวิตแตะ 115
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมหนักและดินถล่ม เนื่องจากฝนตกหนักครั้งประวัติศาสตร์ทางตะวันตกของประเทศ แตะ 115 รายแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า ยังมีอีก 2 ราย ที่ไม่ตรวจพบชีพจร และผู้คนสูญหายอีก 61 ราย โดยในเหตุการณ์ครั้งนี้ พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุดคือจังหวัดฮิโรชิมา มีรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตภายในจังหวัดนี้มากถึง 44 ราย
สำหรับจังหวัดโอคายามะ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28ราย และจังหวัดเอฮิเมะ มีจำนวนผู้เสียชีวิต 25 ราย นอกจากนี้แล้วยังมีรายงานผู้เสียชีวิตจากอีก 9 จังหวัด ทั้ง เกียวโต ยามากุชิ ฟุกุโอกะ เฮียวโงะ คาโกชิมะ โคจิ ซากะ จิฟุ และจังหวัดชิกะ
บุคลากรในกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น หรือ JSDF และหน่วยงานอื่น ๆ กำลังปฏิบัติการเข้าช่วยเหลือผู้คนในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยครั้งรุนแรง ในขณะที่หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นออกเตือนว่า จะยังคงมีดินถล่มและน้ำท่วมต่อเนื่องซึ่งส่งผลกระทบทำให้เกิดความอันตรายในอนาคต
จำนวนของผู้เสียชีวิตคาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อทางเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นสามารถเข้าถึงบริเวณหรือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้แล้ว เชื่อว่ายังมีผู้คนจำนวนมากที่ติดอยู่ในบ้านของตน เนื่องจากถนนที่ถูกตัดขาดเพราะเหตุน้ำท่วมหนัก
ในจุดหนึ่ง มีคำสั่งหรือคำแนะนำการอพยพประชากรที่มากถึง 5.9 ล้านราย ในทั้ง 19 จังหวัด โดยเช้าของวันที่ 9 ก.ค. มีผู้ที่ต้องอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพถึง 23,000 ราย อ้างอิงจากหน่วยงานจัดการอัคคีภัยและภัยพิบัติ
นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่นบอกกล่าวถึงการประชุมหน่วยงานพิเศษเพื่อรับมือกับภัยพิบัติว่า จำนวนของบุคลากรที่เข้าช่วยเหลือในครั้งนี้นั้นเพิ่มมากขึ้นถึง 73,000 ราย และเจ้าหน้าที่ บุคลากรทุกราย กำลังพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อช่วยชีวิตประชาชน
ในจังหวัดโอคายามะ มีผู้คนมากกว่า 1,000 ราย ที่ติดอยู่บนหลังคาของอาคารต่าง ๆ เพื่อหลบภัยชั่วคราว ซึ่ง หลังจากที่เขื่อน 3 แห่งใกล้กับแม่น้ำโอดะเกิดทลายลงมา จนทำให้บ้านเรือนส่วนใหญ่จมอยู่ใตน้ำ ผู้คนส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือจากเรือหรือเฮลิคอปเตอร์ตามลำดับ
เหตุดินถล่ม
พบศพหนึ่งในผู้สูญหาย 12 ราย ในเมืองคุมาโนะ จังหวัดฮิโรชิมา ส่วนในเมืองฟุกุยามะ พบศพเด็กหญิงวัย 3 ปี เธอถูกพัดมากับกระแสน้ำจากบ้านของเธอ หลังเขื่อนพังลง
นายกอาเบะกำลังเตรียมการเข้าเยือนพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและดินถล่ม ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา.