ญี่ปุ่นเผาศพหัวหน้าลัทธิโอมชินริเกียว
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ทนายของลูกสาวหัวหน้าของลัทธิโอมชินริเกียวหรือ โชโก อาซาฮาระ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นได้ทำการเผาศพของเขาแล้ว โดยโชโก อาซาฮาระ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยก๊าซพิษซารินครั้งร้ายแรงที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลกในปี 2538
โดยญาติของโชโก อาซาฮะระ ที่ถูกประหารชีวิตพร้อมด้วยสาวกอีก 6 ราย เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่างหวังจะเป็นผู้เก็บอัฐิของเขา
ทาโร ทาคิโมโตะ ทนายคนดังกล่าวได้ระบุผ่านบล็อกของเขาว่า “ผมทราบข้อมูลการเผาศพอดีตผู้ต้องโทษประหารอย่างชิซึโอ มัตสึโมโตแล้ว” โดยชื่อที่ทนายคนดังกล่าวระบุถึงคือชื่อจริงของเจ้าลัทธินั่นเอง
สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่า การเผาศพจัดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 9 ก.ค. โดยทนายทาคิโมโน รับหน้าที่เป็นตัวแทนสำหรับลูกสาวคนที่ 4 ของเจ้าลัทธิ ซึ่งเธอได้ออกจากลัทธิเมื่อหลายปีก่อน และมีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิในการเก็บดูแลอัฐิของพ่อมากที่สุด
ทางด้านภรรยาของโชโก อาซาฮาระ ซึ่งเป็นผู้รับช่วงต่อในการดูแลลัทธิโอมชินริเกียว ก็ต้องการจะเก็บอัฐิของเขาเช่นเดียวกัน
ทนายทาคิโมโตะ ระบุว่า ยังไม่มีการบรรจุอัฐิแต่อย่างใด และทางกระทรวงความยุติธรรมก็ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
นายโชโก อาซาฮาระ ซึ่งมีอายุ 63 ปี ถูกประหารเมื่อวันที่ 6 ก.ค.พร้อมด้วยสาวกทั้งหก ในคดีการก่อเหตุโจมตีครั้งรุนแรงที่ใช้ก๊าซพิษซาริน เมื่อปี 2538 ในรถไฟใต้ดินของกรุงโตเกียว รวมไปถึงยังมีคดีที่ทั้งเจ้าลัทธิและผู้ติดตามได้ก่อไว้อีกหลายคดี
สำหรับการก่อเหตุโจมตีเมื่อปี 2538 ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 13 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายพันราย โดยผู้ติดตาม และสาวกของลัทธิโอมชินริเกียวอีก 6 รายที่ต้องโทษประหาร ยังคงรอวันประหารอยู่
เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นยังคงตื่นตัวอยู่เสมอ เพื่อเฝ้าระวังหากมีการลุกขึ้นเพื่อตอบโต้การประหารชีวิตของผู้นำและสมาชิกของลัทธิ
โชโก อาซาฮาระ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลัทธิทั้ง 7 ที่ถูกประหารชีวิตในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสาวกรายอื่นได้แก่ โทโมมาสะ นากางาวะ, โทโมมิตสึ นิอิมิ, คิโยฮิเด ฮายากาวะ, โยชิฮิโระ อิโนอุเอะ และเซย์อิจิ เอนโด รวมถึงมาซามิ สึชิยะ อ้างอิงจากโยโกะ คาวากามิ รมว.กระทรวงยุติธรรม
การประหารชีวิตในญี่ปุ่นจะถูกจัดขึ้นอย่างลับ ๆ โดยไม่มีการเตือนนักโทษ ญาติ หรือตัวแทนทางกฎหมายให้ทราบล่วงหน้า บ่อยครั้งที่นักโทษจะทราบเรื่องการประหารชีวิตเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
เหตุการณ์เมื่อปี 2538 เป็นการโจมตีครั้งยิ่งใหญ่ที่เขย่าขวัญมากที่สุด โดยสมาชิกของลัทธิโอมชินริเกียว 5 ราย โดยสารไปบนรถไฟใต้ดินที่ต่างกัน 3 สาย ณ กรุงโตเกียว ในช่วงเวลาที่มีผู้คนพลุกพล่าน โดยทั้ง 5 ราย ถือถุงพลาสติกที่บรรจุด้วยก๊าซพิษซาริน พวกเขาเจาะถุงด้วยปลายแหลมของร่ม และวางถุงดังกล่าวไว้บนชั้นวางกระเป๋าของรถไฟ หรือวางไว้บนพื้นเพื่อให้ก๊าซพิษรั่วไหลไปทั่วห้องโดยสาร
ในตอนแรก รถไฟที่ทั้ง 5 รายโดยสารต่างขบวน ถูกกำหนดให้ถึงที่สถานีรถไฟใจกลางคาซึมิงาเซกิภายในเวลา 4 นาทีทั้งหมด และทางลัทธิหวังว่าการโจมตีในครั้งนั้น จะไม่ใช่เพียงแค่พรากชีวิตผู้ที่โดยสารรถไฟในขณะนั้น แต่รวมไปถึงการใช้รถไฟแต่ละขบวนในการส่งก๊าซพิษไปยังสถานีรถไฟขนาดใหญ่ ที่มีการเปลี่ยนสายและใช้บริการโดยผู้คนหลายพันรายในครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาก๊าซพิษซารินมีข้อผิดพลาด และการลำเลียงก๊าซพิษกลับมีผลกระทบน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก เหตุการณ์ในครั้งนี้จึงคร่าชีวิตผู้คนไป 12 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 5,500 ราย โดยในภายหลังมีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย
ตามรายงานของสมาพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน หรือ FAS ระบุว่า ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมีได้ประเมินไว้ หากการโจมตีเป็นไปอย่างราบรื่น อาจมีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นรายในเวลานั้นก็เป็นได้.