ฝนถล่มน้ำท่วมหนักในญี่ปุ่น ดับกว่า 70
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 รายและหลายสิบคนยังคงสูญหาย ในขณะที่ฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายเมืองทางตะวันตกและทางตอนกลางของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 8 ก.ค.
เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงออกค้นหาผู้คนที่สูญหายและรอดชีวิตจากเหตุน้ำท่วมหนักและดินถล่ม ในขณะที่มีคำสั่งอพยพ หรือมีคำแนะนำที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนถึง 4.3 ล้านคน ใน 23 จังหวัดจากพื้นที่ตอนกลางถึงพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น
กรมอุตุนิยมวิทยาออกคำเตือนฉุกเฉินว่าจะมีฝนตกหนักในจังหวัดเอฮิเมะ และจังหวัดโคจิในช่วงเช้าของวันที่ 8 ก.ค. ขณะที่จังหวัดกิฟุยังคงอยู่ในภาวะฉุกเฉิน
ในจังหวัดโอกายามะ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด ยังคงมีความพยายามที่จะช่วยชีวิตประชาชนได้มากกว่า 1,000 รายที่ติดอยู่บนหลังคาของอาคารบ้านเรือนหลังจากเขื่อนกั้นแม่น้ำพัง
กระทรวงที่ดินมีแผนจะเคลื่อนย้ายรถสูบน้ำประมาณ 20 คันเพื่อระดมสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วม แต่มีแนวโน้มว่าจะต้องใช้เวลาถึงประมาณ 2 สัปดาห์ที่จะสูบน้ำออกได้หมด
ตั้งแต่เกิดเหตุฝนถล่มหนักในวันที่ 5 ก.ค. เมื่อกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกหนักสูงสุดเป็นประวัติการณ์จนถึงวันที่ 8 ก.ค. มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วถึง 30 รายในฮิโรชิมะ 19 รายในเอฮิเมะ และ 10 รายในโอกายามะ ขณะที่ผู้เสียชีวิตรายอื่นๆในจำนวนกว่า 70 รายนั้น เป็นผู้เสียชีวิตในยามากุจิ เกียวโต กิฟุ ชิกะ โอซากา เฮียวโงะ โคจิ และฟุกุโอกะ
นายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 54,000 นายทั้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และกองกำลังป้องกันตนเองและเจ้าหน้าที่ยามชายฝั่งที่เข้าช่วยเหลือในการกู้ภัย โดยนายซูกะระบุว่า ยังมีผู้ที่สูญหายระบุตำแหน่งไม่ได้ประมาณ 92 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ทางใต้ของจังหวัดฮิโรชิมะ
มีรายงานผู้ประสบภัยมากกว่า 100 จุด รวมทั้งรถยนต์จำนวนมากที่ถูกน้ำท่วมพัดพาไปไกล โดยตอนนี้มีเฮลิคอปเตอร์ 40 ลำที่ออกปฏิบัติภารกิจกู้ภัย
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องนานถึง 3 ชั่วโมงในพื้นที่จังหวัดโคจิ ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมมากถึง 26.3 ซ.ม.ถือเป็นปริมาณน้ำฝนที่มากที่สุดนับตั้งแต่มีการเริ่มบันทึกในปี 2519 เป็นต้นมา
จังหวัดโคจิ บนเกาะชิโกกุ มีประกาศเตือนดินถล่มในพื้นที่เกือบทั่วทั้งเกาะ สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานภาพรถยนต์บนถนนที่โดนโคลนปกคลุมจนทั่ว พนักงานห้างคอนวีเนียนซ์สโตร์คนหนึ่ง ซึ่งต้องหนีน้ำท่วมไปใกล้กับหลังคาระบุว่า น้ำท่วมสูงเกือบถึงศีรษะของเขา
มีผู้เสียชีวิตหลายคนจากเหตุดินถล่มในฮิโรชิมะและมีรายงานว่าพบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุบ้านเรือนพังลงมาในเมืองเกียวโต ทั้งสองพื้นที่มีน้ำท่วมหนักในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา
ถนนหลายสายกลายสภาพเป็นแม่น้ำโคลน มีกองดินอยู่ทั้งสองฝั่ง และมีรถยนต์ที่มีน้ำท่วมมิดล้อรถยนต์
ในจังหวัดเอฮิเมะ มีรายงานหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตบนชั้น 2 ของบ้านที่จมจากโคลนถล่ม และยังมีรายงานเด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนประถมและแม่ของพวกเธอติดอยู่ในพื้นที่โคลนถล่ม ทั้งหมดถูกดึงออกมาจากโคลนถล่มได้ แต่ไม่รอดชีวิต
ทั้งนี้ ประชาชนหลายคนใช้โซเชียลมีเดียเพื่อขอความช่วยเหลือ
“ น้ำมาจากตรงกลางของชั้น 2 ” ผู้หญิงคนหนึ่งในคุราชิกิ จังหวัดโอกายามะ โพสต์รูปของห้องเธอที่มีน้ำท่วมไปครึ่งห้อง
“ เด็กๆ ปีนขึ้นหลังคาไม่ได้ อุณหภูมิในตัวฉันลดต่ำลงมาก ช่วยชีวิตเราด่วน ช่วยเราด้วย ”
ภัยธรรมชาติรุนแรงครั้งนี้ ถือเป็นวิกฤตน้ำท่วมหนักในญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา โดยในปีนั้น มีรายงานผู้เสียชีวิต 74 รายจากเหตุดินถล่มจากฝนตกหนักในจังหวัดฮิโรชิมะ.