ทรัมป์ชี้ขึ้นภาษีสินค้าจีนได้ถึง 5 แสนล้าน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯระบุเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ว่า สหรัฐฯอาจตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าส่งออกของจีนมูลค่ามากกว่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นการเริ่มสงครามการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก
ผู้นำสหรัฐฯยืนยันว่า สหรัฐฯจะเริ่มเก็บภาษีสินค้าของจีนมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น.ตามเวลาของกรุงวอชิงตัน ในวันที่ 6 ก.ค.นี้ และเตือนว่ามาตรการกำแพงภาษีนี้ในรอบต่อไปอาจสูงได้ถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเท่ากับมูลค่าสินค้าที่สหรัฐฯนำเข้าจากจีนในปีที่ผ่านมา
“เราสามารถใช้มาตรการภาษีได้อีก 16,000 ล้านดอลลาร์ใน 2 สัปดาห์ และหลังจากนั้น เรามี 200,000 ล้านที่ระงับไว้ชั่วคราว หลังจาก 200,000 ล้านนี้ เราก็ยังมีอีก 300,000 ล้านที่ระงับไว้ ดังนั้น เรามี 50,000 บวกอีก 200,000 และบวกได้อีกเกือบ 300,000 ล้าน” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน
ความเห็นของทรัมป์ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จีนจะตอบโต้ด้วยมาตรการเดียวกัน ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ขู่ว่าจะมีมาตรการภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจีนมูลค่า 400,000 ล้านดอลลาร์ หากจีนใช้มาตรการกำแพงภาษีโต้ตอบสหรัฐฯที่เริ่มเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มขึ้น ทั้งรถยนต์ ฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์
กรมศุลกากรสหรัฐฯระบุในแถลงการณ์ว่า จะเริ่มเก็บภาษี 25% กับสินค้า 818 รายการที่มีการชี้แจงข้อมูลในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ
จีนขู่สหรัฐฯกลับว่าจะโต้ตอบด้วยมาตรการกำแพงภาษีที่มีมูลค่าเท่ากันกับสินค้าจากสหรัฐฯ ทั้งรถยนต์ ผลิตผลทางการเกษตร และสินค้าอื่นๆ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าความเคลื่อนไหวจะกลายเป็นสงครามการค้าเต็มรูปแบบรวดเร็วแค่ไหน
แหล่งข่าวธุรกิจในวอชิงตันและปักกิ่งระบุว่า ไม่มีหลักฐานว่ามีการเจรจาในนาทีสุดท้ายระหว่างทางการหรัฐฯกับจีน โดยทั้งกระทรวงการคลัง USTR และกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล
จีนกล่าวหาสหรัฐฯเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ว่า ‘เปิดฉากยิง’ โลกด้วยภาษีที่เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 6 ก.ค. โดยเตือนว่า จะโต้ตอบด้วยภาษีมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จีนเคยระบุว่า จะไม่เริ่มต้นก่อสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ก่อน แต่กรมศุลกากรระบุชัดเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ว่า กำแพงภาษีของจีนที่มีต่อสินค้าอเมริกันจะมีผลบังคับใช้ทันที หลังจากสหรัฐฯเริ่มบังคับใช้มาตรการภาษีก่อน
นายเกาเฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่า ภาษีของสหรัฐฯจะส่งผลกระทบกับบริษัทอเมริกันและบริษัทต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจในจีน และขัดขวางซัพพลายชิ้นส่วน และงานประกอบ
“มาตรการของสหรัฐฯ กำลังโจมตีซัพพลายเชนทั่วโลก หรือพูดง่ายๆคือ สหรัฐฯเริ่มเปิดฉากยิงโลกทั้งใบ รวมทั้งตัวเองด้วย” นายเกากล่าว
ศุลกากรสหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษี 25% กับสินค้าหลายประเภท ทั้งรถยนต์ ฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนปั๊ม วาล์วและพริ้นเตอร์ และชิ้นส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยรายการสินค้าหลีกเลี่ยงที่จะขึ้นภาษีโดยตรงกับสินค้าบริโภค เช่น โทรศัพท์มือถือและรองเท้า
จีนขู่จะโต้ตอบกับมาตรการภาษีกับสินค้าอเมริกันนับร้อยรายการ รวมถึงสินค้าที่สหรัฐฯส่งออกสูงสุดอย่าง ถั่วเหลือง ข้าวฟ่าง และฝ้าย ส่งผลกระทบกับเกษตรกรสหรัฐฯในหลายรัฐที่เป็นฐานเสียงให้การสนับสนุนทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2559 เช่นรัฐเท็กซัสและไอโอวา
จากสัญญาณล่าสุดที่เกิดความเสี่ยงว่าจะกระทบการค้า เรือบรรทุกถ่านหินหลายลำของสหรัฐฯที่มุ่งหน้าไปจีนเปลี่ยนเส้นทางไปที่สิงคโปร์แทน
บริษัทต่างชาติ ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 59% หรือมีมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากสินค้าส่งออกของจีนทั้งหมดมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ โดยบริษัทของสหรัฐฯดูจะมีจำนวนมากที่สุด.