สองเกาหลีตกลงจัดงานรวมตัวญาติที่พลัดพราก
ในวันที่ 22 มิ.ย. คณะผู้แทนรัฐบาล ทั้งจากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ได้ร่วมกันตกลงที่จะจัดให้มีการรวมตัวระหว่างหลายครอบครัวที่ต้องแยกจากกันเพราะสงครามเกาหลี เมื่อช่วงปี 2493-96 อีกครั้ง เป็นครั้งแรกในรอบสามปี
การรวมตัวกันอีกครั้ง ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-26 ส.ค.นี้ กลายเป็นประเด็นอ่อนไหวทางอารมณ์ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มญาติผู้สูงวัยที่มีส่วนร่วมในการพบกันอีกครั้งทั้งน้ำตา จากที่ต้องแยกกันเป็นระยะเวลารวมหลายทศวรรษ และได้มีการพบปะบางครั้งเรื่อยมาในช่วงเวลาที่ทั้งสองเกาหลีมีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน
สภากาชาดจากทั้งสองประเทศระบุในแถลงการณ์ร่วมกันหลังจากมีกันประชุมระหว่างคณะผู้แทนว่า การจัดงานพบปะระหว่างญาติ จะมีผู้ได้รับเลือกให้มีส่วนเกี่ยวข้องราว 200 ราย จากทั้งสองเกาหลี
การจัดงานรวมตัวกัน เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ทั้งคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือและประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ อิน ได้สัญญาไว้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาความสัมพันธ์ของสองประเทศที่น่าทึ่งในปีนี้ หลังจากความกลัวในเรื่องสงครามเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธเมื่อปีก่อน
พัค ยอง อิล ผู้นำคณะผู้แทนรัฐบาลเกาหลีเหนือในการประชุม ที่จัดขึ้นในโรงแรมบนภูเขาคึมกังหรือสถานที่พักตากอากาศของนักท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือ
ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากการประชุมสุดยอดในสัปดาห์ก่อน ระหว่างผู้นำเกาหลีเหนือ และประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งพวกเขาได้ตกลงที่จะร่วมมือกันทำงานเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์ออกจากคาบสมุทร
สำหรับการรวมตัวระหว่างครอบครัวที่ต้องแยกจากกัน มีการจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2528 ภายหลังจากนั้น ได้มีการจัดงานขึ้นอีกราว 20 ครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายในปี 2558
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญในสถาบันวิจัยฮุนไดระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2543 มีชาวเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ที่เคยต้องพรากจากกันกว่า 23,676 ราย ที่ได้กลับมาพบกัน หรือได้ติดต่อกันผ่านการใช้วิดีโอเชื่อมต่อ
แต่เวลาก็นับถอยหลังจนใกล้หมดลง เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา 56% ของชาวเกาหลีใต้กว่า 131,531 ที่ได้สมัครเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของผู้เข้าร่วมการรวมตัวอีกครั้ง ได้เสียชีวิตลง
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทางเกาหลีเหนือได้ยุติข้อตกลงที่เคยตั้งไว้ก่อนหน้านี้ที่จะดำเนินการจัดงานรวมตัวอีกครั้งหรือไม่ นั่นก็คือการเรียกให้ทางเกาหลีใต้ส่งตัวหญิงชาวเกาหลีเหนือ 12 ราย ที่เคยทำงานในร้านอาหารที่ประเทศจีน และได้แปรพักตร์เข้าหาเกาหลีใต้ เมื่อปี 2559 คืนมา
สำหรับสงครามเกาหลีเหนือในช่วงปี 2493-96 นั่น ถือว่าเป็นเพียงแค่การพักรบเท่านั้น ไม่ใช่การยุติลงอย่างสันติ ทำให้ในทางเทคนิคแล้วทั้งสองประเทศยังคงอยู่ในสงคราม พร้อมด้วยเขตปลอดทหารระหว่างพรมแดนที่มีป้อมปราการที่แน่นหนาที่สุด.