ประธานบริหารสตาร์บัคส์ลงจากตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางสตาร์บัคส์ได้ยืนยันว่า โฮเวิร์ด ชูลต์ซ์ ประธานผู้บริหารบริษัทสตาร์บัคส์ ผู้ควบคุมการขยายกิจการของสตาร์บัคส์ไปทั่วโลก จะลงจากตำแหน่งประธานผู้บริหารคณะกรรมการ ของบริษัทสตาร์บัคส์ ในวันที่ 26 มิ.ย.
นายชูลต์ซ์ วัย 64 ปี ใช้เวลากว่า 40 ปี ในการทำงานที่บริษัทสตาร์บัคส์ เขารับหน้าที่ซีอีโอในบริษัทตั้งแต่ปี 2530 จนกระทั่งปี 2543 และกลับมามีบทบาทอีกครั้งในปี 2551 จนกระทั่งปี 2559 เมื่อซีอีโอคนปัจจุบันอย่างเควิน จอห์นสัน รับหน้าที่แทน นายชูลต์ซ์ เขียนจดหมายไว้ว่า “ผมเริ่มสร้างบริษัทนี้เพราะพ่อของผม คนงานและทหารผ่านศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่เคยได้มีโอกาสที่จะได้ทำ” โดยเขาได้เขียนระบุถึงพนักงานของสตาร์บัคส์ว่า “เราร่วมมือกันสร้างบริษัทได้สำเร็จ รวมถึงสิ่งอื่นอีกมากมาย โดยการสมดุลทั้งทางผลประโยชน์และด้านจริยธรรมทางสังคม ทั้งโดยการอ่อนโอนและเข้มงวด ทั้งด้วยความรักและความรับผิดชอบ” หุ้นของบริษัทสตาร์บัคส์ลดลงหลังการประกาศในอีกไม่กี่ชั่วโมงในช่วงเวลาซื้อขาย ชูลต์ซ์เป็นนักวิจารณ์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่โดดเด่น ก่อนหน้านี้มีข่าวลือเกี่ยวกับการที่ชูลต์ซ์เกิดแรงบันดาลใจด้านการเมืองมาเป็นเวลานาน โดยเมื่อต้นปีชูลต์ซ์ระบุว่า การบริหารประเทศของทรัมป์นั้นได้สร้างหายนะในประเทศสหรัฐฯมาอย่างต่อเนื่อง นายชูลต์ซ์ให้สัมภาษณ์กับทางนิวยอร์คไทม์เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ว่า “ผมอยากจะบอกกับคุณอย่างจริงใจโดยไม่ต้องการให้เป็นเรื่องพาดหัวข่าวโด่งดัง สำหรับช่วงเวลาขณะนี้ ผมมีความกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับประเทศของเรา ทั้งความแตกแยกที่นับวันจะเติบโตมากยิ่งขึ้น และจุดยืนของพวกเราบนโลกใบนี้”“สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะทำในเป้าหมายต่อไปคือ ผมอยากจะค้นหาว่ามีบทบาทอะไรที่ผมสามารถทำได้เพื่อได้เป็นผู้ให้คืนกับสังคมบ้าง ผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามันหมายความว่าอะไรหรอกนะ” ทางสตาร์บัคส์ระบุว่า หุ้นของบริษัททะยานขึ้นมากกว่า 21,000% นับตั้งแต่ปี 2535 หลังจากการเปิดตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก ไมรอน อัลล์แมน อดีตประธานและซีอีโอของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่าง เจ.ซี. เพนนีย์ จะมาแทนที่ชูลต์ซ์ในตำแหน่งประธานผู้บริหารของคณะกรรมการบริษัท ด้านเควิน จอห์นสันระบุผ่านแถลงการณ์ว่า “ไม่มีคำไหนที่สามารถสื่อความขอบคุณของเราทั้งหมดที่มีต่อคุณโฮเวิร์ดในการสร้างบริษัทอันยอดเยี่ยมแบบนี้ได้ เขาได้ช่วยให้สตาร์บัคส์ได้รับการยอมรับจากผู้คนหลายล้านทั่วโลก โดยมักจะทำเพื่อผู้คนอยู่เสมอและมักกล้าที่จะสร้างอนาคตที่ดีกว่า เขาสอนเราทุกคนว่าเราเป็นบริษัทสาธารณะที่แตกต่างจากคนอื่นได้ นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องทำและจะพึงตระหนักถึงต่อไป” บริษัทสตาร์บัคส์มีมากกว่า 28,000 ร้าน ทั่ว 77 ประเทศ โดยการลงจากตำแหน่งของชูลต์ซ์เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่บริษัทได้ทำการปรับปรุงนโยบายร้านจากที่เคยมีข่าวการจับกุมลูกค้าสองรายในร้านที่ฟิลาเดลเฟีย.