ธุรกิจยักษ์ใหญ่เตือนเมย์เวลาใกล้หมด
กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ของยุโรปเตือนนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษว่า จะตัดงบการลงทุนลงหากไม่มีความชัดเจนมากกว่านี้เกี่ยวกับเงื่อนไขการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร
โดยกลุ่มผู้นำธุรกิจ ทั้ง BP, BMW, Nestle และ Vodafone กล่าวกับนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ว่า เวลากำลังจะหมดลงแล้ว
ในแถลงการณ์หลังจากมีการประชุมกันที่ทำเนียบนายกฯ บรรดานักธุรกิจกล่าวว่า ดีลการค้ากับอียูต้องมีความลื่นไหลกับสหภาพศุลกากร
ทางทำเนียบนายกฯระบุว่า การประชุมดำเนินไปอย่างเปิดกว้างและสร้างสรรค์ ขณะที่กลุ่มผู้นำอุตสาหกรรมเตือนว่า ความผันผวนอาจทำให้มูลค่าการลงทุนลดน้อยลง
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจชั้นนำซึ่งมีชื่อเรียกว่า กลุ่มอุตสาหกรรมโต๊ะกลมของยุโรป (ERT) ซึ่งมี Carl-Henric Svanberg ประธาน BP และ Paul Bulcke
ประธานของ Nestle รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ คนอื่นๆในการประชุมก็ยังมี Vittorio Colao ประธาน Vodafone และ Moya Greene ของ Royal Mail
ผู้บริหารอาวุโสจากหลายบริษัททั้ง BMW, Philips, E.On และ Ferrovial ก็เข้าร่วมประชุมกับนายกฯเมย์และ David Davis เลขาธิการเบร็กซิท
กลุ่ม ERT เป็นตัวแทนของ 50 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป มีรายได้รวมกันประมาณ 2.25 ล้านล้านยูโร หรือราว 85.12 ล้านล้านบาท และมีการจ้างงานพนักงานนับล้านคน
ในแถลงการณ์ กลุ่ม ERT ระบุว่า “การลื่นไหลของสินค้าโดยไม่มีการกีดขวางให้สะดุด เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเศรษฐกิจของทั้งอียูและสหราชอาณาจักร ต้องเป็นการลื่นไหลกับสหภาพศุลกากร”
“เราต้องการความชัดเจนและความมั่นคง เพราะเวลากำลังจะหมดลงแล้ว ความผันผวนไม่แน่นอนทำให้การลงทุนลดลง”
โฆษกของทำเนียบนายกรัฐมนตรีแถลงว่า นายกฯ กล่าวกับกลุ่มผู้นำธุรกิจว่า การทำงานภายใต้รูปแบบของศุลกากรสองแห่ง และการขีดเส้นใต้เน้นความสำคัญเพื่อทำให้แน่ใจว่า อนาคตในการบริหารจัดการการค้าของเรากับอียู จะมีความราบรื่นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เธอยังได้ย้ำถึงข้อผูกพันที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเรื่องพรมแดนที่เป็นเรื่องยากระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับไอร์แลนด์ และยอมให้สหราชอาณาจักรมีนโยบายการค้าที่เป็นอิสระ
“นายกฯ เข้าใจถึงความจำเป็นของการจัดหาความมั่นคงสำหรับธุรกิจ ข้อตกลงในประเด็นที่ทำให้ลุล่วงตามเวลาของสภายุโรปในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้มีเวลาสำหรับธุรกิจที่เตรียมพร้อมสำหรับการบริหารจัดการใหม่ๆ” โฆษกหญิงกล่าว.