ทรัมป์ชี้ประชุมคิมเลื่อน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯระบุเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ว่า มีโอกาสมากที่การประชุมระหว่างเขากับประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือจะเลื่อนออกไป ไม่ใช่เดือนมิ.ย.ตามกำหนดการเดิม
โดยผู้นำสหรัฐฯ ชี้แจงเรื่องนี้เมื่อเขาพบกับประธานาธิบดีมุนแจอินแห่งเกาหลีใต้ เพื่อปรึกษาหารือกันก่อนการประชุมระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับประธานาธิบดีคิมจะมีขึ้น
“ไม่ว่าอย่างไร ก็จะมีการประชุมเกิดขึ้น พวกคุณจะได้รู้เร็วๆนี้” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว เขายังปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่า จะมีการพูดคุยกับผู้นำเกาหลีเหนือในประเด็นใด
ตามกำหนดเดิม การประชุมจะมีขึ้นในวันที่ 6 ม.ย.ที่สิงคโปร์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นประเทศที่มีสถานะเป็นกลางทางการเมือง แต่ยังไม่มีการยืนยันถึงสถานที่ในการจัดการประชุมครั้งนี้ ถ้อยแถลงของทรัมป์ในวันที่ 22 พ.ค. ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า การประชุมอาจไม่เกิดขึ้นตามแผนเดิม
สัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีเหนือระบุว่า จะพิจารณาทบทวนว่าจะยังมีการประชุมกับผู้นำสหรัฐฯ อยู่หรือไม่ หลังจากยกเลิกการประชุมกับเกาหลีใต้ เพราะไม่พอใจที่สหรัฐฯกับเกาหลีใต้ยังมีการร่วมซ้อมรบอยู่ในคาบสมุทรเกาหลี
โดยผู้นำเกาหลีเหนือยังพูดถึงประเด็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ คือนายจอห์น โบลตัน ซึ่งชี้ว่าจะใช้รูปแบบการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือเหมือนกับที่ใช้ในประเทศลิเบีย ซึ่งในช่วงเวลานั้น ผู้นำของลิเบียคือ โมอัมมาร์ กัดดาฟี ตกลงที่จะยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการที่สหรัฐฯจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรให้ อย่างไรก็ตาม ในที่สุด สหรัฐฯกลับสนับสนุนให้เกิดการโค่นล้มผู้นำอย่างกัดดาฟีด้วยความรุนแรง และทำให้ลิเบียเกิดสงครามกลางเมือง
เกาหลีเหนือมองว่า สิ่งที่สหรัฐฯทำกับลิเบียถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด ขณะที่ทางทรัมป์กล่าวว่า ลิเบียโมเดลไม่ได้เป็นรูปแบบที่เราใช้ทั้งหมด
ผู้นำสหรัฐฯ ชี้ว่า ประธานาธิบดีคิมมีความคิดที่จะเลื่อนการประชุมออกไป หลังจากมีการประชุมอย่างลับๆกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนเป็นครั้งที่สองเมื่อเร็วๆนี้
“เกาหลีเหนือมีความคิดบางอย่างที่แตกต่างไปหลังการประชุมกับจีน ผมไม่อาจพูดได้ว่า ผมพอใจกับเรื่องนี้” ทรัมป์พูดถึงคิม
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ผู้นำเกาหลีใต้ยังมีความเห็นในแง่ดีกับการประชุมระหว่างทรัมป์กับคิม โดยประธานาธิบดีมุนผลักดันอย่างเต็มที่ และกล่าวว่าเขาเชื่อมั่นว่า ผู้นำสหรัฐฯจะทำให้การประชุมครั้งนี้สำเร็จลุล่วง
ในถ้อยแถลงเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ทรัมป์ระบุว่า เขาเชื่อว่าผู้นำเกาหลีเหนือจริงจังเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ โดยคณะทำงานของทรัมป์แสดงอย่างชัดเจนว่า ต้องการให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์
โดยทรัมป์ยังให้สัญญากับผู้นำเกาหลีเหนือในวันเดียวกันว่า “เขาจะปลอดภัย เขาจะมีความสุข ประเทศของเขาจะร่ำรวย คิมจะมีความสุขมากถ้าทุกอย่างสำเร็จ”
เขายังเสริมว่า จะไม่มีการประชุมเกิดขึ้น หากเงื่อนไขไม่เป็นไปตามที่ต้องการ เขายังกล่าวว่า การประชุมคงจะมีขึ้นในอนาคต หากไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในเดือนหน้าตามกำหนดเดิม
ทั้งนี้ ไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใด ซึ่งยังอยู่ในตำแหน่ง มีโอกาสได้เผชิญหน้ากันกับผู้นำเกาหลีเหนือมาก่อน.