คิวบายืนยันผู้เสียชีวิตเหตุเครื่องบินตก 110 ราย
เจ้าหน้าที่คิวบายืนยันว่า เหตุการณ์เครื่องบินโบอิงตกรุนแรงเมื่อวันที่ 18 พ.ค.หลังนำเครื่องขึ้นจากเมืองฮาวานาได้ไม่นาน มีจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 110 รายจากทั้งหมด 113 ราย กลายเป็นเหตุการณ์รุนแรงทางอากาศของหมู่เกาะแคริบเบียนที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี
การลดธงเหลือครึ่งเสาทั่วคิวบาเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ถือเป็นการเริ่มต้นการไว้อาลัยทั้งหมด 2 วันของประเทศ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ทำการกู้หลักฐานจากพื้นที่เกิดเหตุเครื่องบินตกและระบุตัวเหยื่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ ล่าสุดสามารถระบุได้แล้ว 15 ราย และสามารถเรียกข้อมูลจากกล่องดำได้แล้ว
เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลผ่านงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่สนามบินฮาวานาว่า ผู้โดยสารทั้ง 99 รายเสียชีวิต ในเที่ยวบินภายในประเทศเพื่อเดินทางไปยังเมืองฮอลกิน ทางตะวันออก เป็นชาวคิวบา ในขณะที่ีอีก 3 รายเป็นชาวต่างชาติ โดยมีชาวอาร์เจนตินา 2 ราย และเม็กซิกัน 1 ราย และยังมีอีก 2 รายที่เป็นชาวซาห์ราวีที่อาศัยอยู่ในคิวบา
เครื่องบินโบอิง 737 ที่มีอายุการใช้งานเกือบ 40 ปี ถูกเช่าเหมาลำโดยสายการบินเรือธงของคิวบา อย่าง คิวบานา จากบริษัทขนาดเล็กในเม็กซิกันที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักชื่อว่า Damojh โดยลูกเรือชาวเม็กซิกัน 6 รายบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด
หัวหน้าโรงพยาบาลที่ผู้รอดชีวิตเข้ารับการรักษาระบุว่า มีหญิงชาวคิวบาผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกทั้งหมด 3 ราย แต่ทั้งหมดยังอยู่ในภาวะวิกฤต
Amparo Font แม่ของหญิงสาวผู้รอดชีวิตวัย 23 ปี อย่าง Gretel Landrove กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทาพร้อมน้ำตาว่า “ ลูกสาวของฉันคือนักสู้ เธอแข็งแกร่ง เธอจะสามารถช่วยให้ตัวเองปลอดภัยได้ ”
เหล่าญาติที่โศกเศร้าต่างร้องไห้และกอดกันอยู่ด้านหน้าพื้นที่เก็บศพ หลังมอบข้อมูลเกี่ยวกับคนในครอบครัวที่ตนรักให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเพื่อช่วยในขั้นตอนการระบุตัวตน
ประธานาธิบดี Miguel Diaz-Canel ได้ลงพื้นที่เพื่อเยือนพื้นที่เก็บศพเมื่อวันที่ 19 พ.ค. หนึ่งวันหลังจากตรวจสอบพื้นที่เครื่องบินตก ซึ่งถือเป็นการทดสอบการเป็นประธานาธิบดีครั้งใหญ่ของเขาหลังรับตำแหน่งต่อจาก Raul Castro ในเดือนก่อน
ผู้คนในท้องที่ซึ่งเห็นเหตุการณ์เครื่องบินตกระบุว่า หนึ่งในเครื่องยนต์เกิดเพลิงลุกไหม้ก่อนที่ตัวเครื่องจะตกลงสู่พื้นดิน
Marino Perez เกษตรกรรายหนึ่งระบุว่า “ เครื่องบินเกิดติดไฟ มันพลิกไปมาก่อนจะดิ่งลงมายังพื้นดิน ”
รัฐบาลเม็กซิโกระบุว่า ยังไม่แน่ชัดว่าทางคิวบาได้ทำงานร่วมกับ Damojh ซึ่งดำเนินการด้วยเครื่องบินเพียง 3 ลำมาก่อนหรือไม่
นักบินซึ่งเคยทำงานให้กับ Damojh มาก่อนถูกยกคำพูดมารายงานโดยหนังสือพิมพ์เม็กซิกันอย่าง Milenio โดยเขาวิจารณ์ทางบริษัทว่าขาดการบำรุงรักษาเครื่องบินที่เพียงพอ
Marco Aurelio Hernandez อดีตนักบินของ Damojh ระบุว่า “ ผมเคยประสบเหตุการณ์บ่อยครั้งเมื่อยังทำงานอยู่ในบริษัทนี้ อย่างเช่นเครื่องยนต์ล้มเหลว หรือระบบไฟฟ้าล่มเมื่อเรานำเครื่องออกจากเม็กซิโกครั้งหนึ่ง ” ทาง Damojh ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นใด ๆ
ทางทีมสืบสวนของคิวบาได้พบเสียงบันทึกภายในห้องนักบินที่อยู่ในสภาพที่ดี และจะยังคงค้นหาข้อมูลบันทึกเกี่ยวกับเที่ยวบินต่อไป
โดยทางเม็กซิโกระบุว่า จะส่งทีมสืบสวนจากกรมการบินพลเรือนเข้าช่วยค้นหาต่อไปอีกด้วย
เหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์คิวบา นับตั้งแต่เครื่องบินโดยสาร Ilyshin-62M ที่สร้างโดยโซเวียต ตกลงใกล้กับฮาวานาเมื่อปี 2532 และทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 126 ราย บนเครื่อง และบนพื้นดินอีก 14 ราย.