โสมขาวเป็นกาวใจให้โสมแดง – สหรัฐฯ
เกาหลีใต้ต้องเล่นบทเป็นกาวใจประสานรอยร้าวระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างแสดงจุดยืนที่แตกต่างกันบางอย่างก่อนการประชุมที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า เจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ให้ความเห็นเมื่อวันที่ 17 พ.ค.
มีหลายความเห็นเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 16 พ.ค.เกาหลีเหนือขู่จะยกเลิกการประชุมในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ โดยระบุว่า เกาหลีเหนืออาจไม่เข้าร่วมประชุม หากทางวอชิงตันยังคงต้องการบีบบังคับให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์แต่เพียงฝ่ายเดียว ขณะที่สหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ยังคงมีการร่วมซ้อมรบกันอยู่
โดยทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ หรือ ประธานาธิบดีมุนแจอินต้องแสดงท่าทีเป็นคนกลางผู้เจรจาไกล่เกลี่ยแก้ไขความขัดแย้งในหลายช่องทาง ระหว่างเกาหลีใต้ สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ
ประธานาธิบดีทรัมป์จะมีการประชุมกับประธานาธิบดีมุนแห่งเกาหลีใต้ที่ทำเนียบขาวในวันที่ 22 พ.ค.นี้ และทั้งสองต่างคาดหวังว่าจะได้พูดคุยเกี่ยวกับการประชุมที่จะมีขึ้นในเดือนหน้าระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับผู้นำเกาหลีเหนือ
ทำเนียบผู้นำเกาหลีใต้มีความตั้งใจที่จะให้ข้อมูลสื่อสารที่เพียงพอกับทางสหรัฐฯ จากความเข้าใจเกาหลีเหนือทั้งด้านสถานะและความคิดผ่าน
การประชุมในวันที่ 22 เดือนนี้ และในทางกลับกัน จะให้ข้อมูลสถานะของสหรัฐฯ กับทางเกาหลีเหนือด้วย เพื่อช่วยเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้เข้าใจจุดยืนของกันและกันมากขึ้น
“ จากคำประกาศแถลงการณ์และท่าทีการขานรับจากเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ เราเข้าใจทั้งสองฝ่ายว่ามีความจริงใจและมีความตั้งใจอย่างแท้จริงที่จะแสดงจุดยืนของทั้งสองประเทศ ” เจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดีกล่าว
เกาหลีใต้มีเจตนาที่จะพูดคุยกับทางเกาหลีเหนืออย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีการประชุมระดับสูง อย่างการประชุมที่ทางเกาหลีเหนือขอยกเลิกไปเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำเนียบระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ทั้งนี้ เกาหลีเหนือยกเลิกการประชุมกับเกาหลีใต้ โดยอ้างว่าการร่วมซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ถือเป็นการยั่วยุ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า เขายังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้
“ เรายังไม่ได้เห็นอะไรเลย เราต้องดูก่อน” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวในทำเนียบ
“ เรายังไม่เห็นอะไร เรายังไม่ได้ยินอะไร เราจะดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ”
แต่เมื่อถูกถามว่า เขายังยืนยันว่าการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการประชุมหรือไม่ เขาพยักหน้ารับ
ขณะเดียวกัน นายหวังยี่ รมว.กระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ว่า มาตรการที่เกาหลีเหนือใช้เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีควรได้รับการยอมรับ และสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสหรัฐฯ ควรชื่นชมโอกาสของสันติภาพที่เกิดขึ้น.