จีเอ็มเล็งเปิดธุรกิจรถไร้คนขับเฉพาะคน
ผู้บริหารระดับสูงของ บริษัทเจเนรัล มอเตอร์ส์ หรือ จีเอ็ม ซึ่งวางแผนจะเปิดตัวรถแท็กซีไร้คนขับ เพื่อให้บริการรถโดยสารร่วมส่วนบุคคลภายในปีหน้าระบุว่า กำลังมองหาโอกาสทางธุรกิจสำหรับรถยนต์ไร้คนขับที่ออกแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งแทบจะไม่มีใครรู้จักแล้วในปัจจุบัน
ทางไมค์ เอเบลสัน รองประธานด้านกลยุทธ์ทั่วโลกของบริษัท จีเอ็ม ระบุว่า สำหรับลูกค้านั้นจะสามารถครอบครองหรือเช่ารถยนต์ที่ออกแบบเฉพาะตัวได้เป็นรายบุคคล ซึ่งในที่นี้การบริการจะครอบคลุมถึงพื้นที่นอกเขตเมือง และจะนำมาใช้ในแอปพลิเคชันแชร์รถยนต์โดยไม่ผ่านคนกลาง
อ้างอิงข้อมูลจากนายไมค์ เอเบลสัน ที่พูดในงานประชุม คาร์ ออฟ เดอะ ฟิวเจอร์ ในนครนิวยอร์ค ระบุว่า ทางบริษัทจีเอ็มนั้น “กำลังคิดเกี่ยวกับรุ่นต่าง ๆ” ของรถยนต์ไร้คนขับ ที่จะช่วยขับเคลื่อนรายได้ของบริษัท
เขาเองเป็นหนึ่งในสถาปนิกคนสำคัญของธุรกิจด้านการคมนาคมของจีเอ็มในอนาคต โดยเขาได้ให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเองที่จะถูกใช้ในบริการรถยนต์ร่วมโดยสารนั้น จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วให้กลายเป็นรถยนต์ที่ถูกสร้างมาอย่างมีจุดประสงค์เฉพาะ ซึ่งจะไม่เหมือนกับรถยนต์ทั่วไป
ในเบื้องต้น ทางบริษัทจีเอ็มจะนำรถยนต์เชฟโรเลต โบลต์ อีวี รุ่นที่ถูกดัดแปลงพิเศษมาใช้สำหรับรถยนต์ในปี 2562 ซึ่งทางผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกันจะรับหน้าที่ผลิตพวงมาลัย แป้นเหยียบ และอาจรวมถึงฟีเจอร์การปรับเบาะ สำหรับรถยนต์ระลอกใหม่ในอนาคต
ด้านการออกแบบรถยนต์จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้พบกับรูปลักษณ์ชวนมองของตัวรถนั่นเอง
นายไมค์ระบุแทนทาง ทางจีเอ็มซึ่งเชื่อว่ารถยนต์ไร้คนขับที่ถูกออกแบบมาและสามารถเป็นเจ้าของได้อย่างรายบุคคลนั้นจะกลายเป็นธุรกิจใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะในบริเวณรอบนอกเขตเมืองที่มีประชากรน้อย ซึ่งบริการแชร์รถยนต์อาจจะไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายในเวลาอันใกล้
ส่วนธุรกิจพาณิชย์รถยนต์ร่วมโดยสารส่วนบุคคลที่ของบริษัทจีเอ็มนั้นคาดว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับรถยนต์ไร้คนขับได้ในอนาคต
ความสามารถในการใช้จ่ายนั้นถือเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดสำหรับการที่จะขยายตลาดเพื่อให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของรถยนต์ไร้คนขับรายบุคคล แต่อาจจะมีรถยนต์ที่ถูกเลือกให้เข้ามาให้บริการดังกล่าวอีก อย่างเช่นรถยนต์จากบริษัทเทสล่า และบริษัทจีเอ็ม รวมถึงมีการแบ่งปันรายได้ให้กับบริษัทที่เข้าร่วมดำเนินการทั้งหมด
นายจอห์น ฮอฟเฟคเกอร์ รองประธานกรรมการบริษัทผู้ให้คำปรึกษาอย่าง อลิกซ์พาร์ทเนอร์ส์ ระบุว่า ค่าใช้จ่ายลดลงอย่างรวดเร็ว จนถึงจุดที่ผู้คนจะสามารถซื้อรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเองได้ภายในปี 2566-68.