บริษัทฉาวใช้ประโยชน์จาก FB ปิดตัว
บริษัท Cambridge Analytica ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อให้เกิดข่าวอื้อฉาวเรื่องการนำข้อมูลผู้ใช้งานเฟซบุ๊กมาแสวงหาประโยชน์ และบริษัทแม่ในอังกฤษคือ SCL Elections ปิดตัวลงทันทีหลังจากผลประกอบการธุรกิจย่ำแย่ อ้างอิงจากถ้อยแถลงของบริษัทเมื่อวันที่ 2 พ.ค.
นอกจากนี้ บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการยื่นขอล้มละลาย หลังจากสูญเสียลูกค้าและเผชิญกับค่ากฎหมายที่เป็นผลมาจากข่าวฉาวที่ว่า บริษัทใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กนับล้านตั้งแต่ต้นปี 2557
“ ผลกระทบจากการรายงานของสื่อทำให้ลูกค้าและซัพพลายเออร์ของบริษัทเราหายไปมาก” อ้างอิงจากแถลงการณ์
“ ผลของข่าวฉาว กลายเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้บริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไป ซึ่งทำให้ Cambridge Analytica ไม่มีทางเลือกที่จะบริหารจัดการบริษัทต่อไปได้”
มีการกล่าวหาว่า บริษัทใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานเฟซบุ๊กกว่า 87 ล้านราย โดยไม่ได้รับความยินยอม โดยบริษัท ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเมืองถูกจ้างโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2559 ส่งผลทำให้หุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊กดิ่งฮวบ และผู้บริหารถูกสอบสวนทั้งในสหรัฐฯและยุโรป
“ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา Cambridge Analytica ตกเป็นเป้าของการกล่าวหาที่ไม่มีมูล แม้บริษัทพยายามจะแก้ไข ก็ถูกว่าร้ายถึงการดำเนินการธุรกิจของบริษัทที่ถูกกฎหมาย และมีมาตรฐานในด้านโฆษณาออนไลน์ทั้งด้านการเมืองและการพาณิชย์อีกด้วย ” อ้างอิงจากแถลงการณ์ของบริษัท
โดยบริษัทปิดตัวลงเมื่อวันที่ 2 พ.ค.และพนักงานได้รับแจ้งให้คืนคอมพิวเตอร์ให้บริษัท อ้างอิงจากการรายงานของ Wall Street Journal
มีผลทำให้บริษัท Cambridge Analytica ถูกถอดออกจากรายชื่อสำนักงานในกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ขณะที่สำนักงานของ SCL ที่วอชิงตัน เมื่อผู้สื่อข่าวจากรอยเตอร์ติดต่อเข้าไป ชายที่อยู่ในสำนักงานปฏิเสธที่จะให้ความเห็น
หลังจากการประกาศปิดบริษัท หน่วยงานที่กำกับดูแลของสหราชอาณาจักรระบุว่า จะยังมีการสอบสวนบริษัททั้งในทางแพ่งและทางอาญาต่อไป และจะติดตามบุคคลและผู้บริหารที่กระทำการไม่เหมาะสมต่อไป แม้บริษัทจะปิดตัวลงก็ตาม
“ เราจะจับตาอย่างใกล้ชิดกับบริษัท โดยใช้อำนาจที่เรามีอยู่เพื่อควบคุมและตรวจสอบ เพื่อให้แน่ใจในการปกป้องความปลอดภัยของสาธารณชน” โฆษกของสำนักงานคณะกรรมาธิการสารสนเทศระบุในแถลงการณ์
มีการจัดตั้งบริษัท Cambridge Analytica ขึ้นในปี 2556 โดยตั้งเป้าที่การเลือกตั้งในสหรัฐฯ ด้วยเงินทุนสนับสนุนจำนวน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯจาก Robert Mercer ผู้บริจาคมหาเศรษฐีจากพรรครีพับลิกัน และ Steve Bannon ที่ปรึกษาทำเนียบขาวในอนาคตของประธานาธิบดีทรัมป์ อ้างอิงจากการรายงานของนิวยอร์กไทม์
โดยบริษัทวางตัวเองว่าเป็นผู้จัดทำการวิจัยให้ผู้บริโภค ตั้งเป้าที่โฆษณาและบริการที่เกี่ยวกับข้อมูลสำหรับลูกค้าทั้งในส่วนการเมืองและธุรกิจ
หลังจากทรัมป์ชนะเลือกตั้งได้เข้ามาทำงานในทำเนียบขาวในปี 2559 ถือว่าบริษัทมีส่วนในการช่วยเหลือให้เกิดความสำเร็จ โดย Alexander Nix ซีอีโอของบริษัทหาลูกค้าได้มากขึ้น โดยบริษัทคุยว่าสามารถพัฒนาโปรไฟล์ของผู้บริโภคและผู้ลงคะแนนเลือกตั้งด้วยสูตรลับที่ช่วยให้พวกเขามีประสิทธิภาพมากกว่าที่โฆษณาแบบดั้งเดิมทำได้.