เฟซบุ๊กรายได้ดีเกินคาด
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.เฟซบุ๊กรายงานรายได้ประจำไตรมาสที่ดีเกินคาดการณ์ โดยสามารถทำรายได้จากโฆษณาได้สูงแม้จะเพิ่งผ่านช่วงวิกฤตจากข่าวฉาวมาก็ตาม
โดยเฟซบุ๊กรายงานรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2561 นี้ที่สูงถึง 11,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 379,568 ล้านบาท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ของรอยเตอร์ และมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 1.69 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อหุ้น นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังรายงานว่า มีจำนวนผู้ใช้งานต่อวันอยู่ที่ 1,450 ล้านบัญชี และมียอดผู้ใช้งานต่อเดือนอยู่ที่ 2,200 ล้านบัญชี
รายงานประจำไตรมาสยังเน้นให้เห็นถึงการลงทุนในการจ้างงานและการขยายธุรกิจในส่วนโทรศัพท์มือถือ โดยรายได้จากโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันคิดเป็น 91% จากทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในการประชุมทางไกลว่า บริษัทกำลังลงทุนจำนวนมากในด้านความปลอดภัยและความมั่นคง รวมทั้งพนักงานที่มีทักษะทางภาษาเพื่อกำจัดข้อความที่แสดงความเกลียดชัง และเครื่องมือที่จะตรวจสอบการตัวเลขการลงทะเบียนจากรัฐบาลก่อนหน้าการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และในต่างประเทศภายในสิ้นปีนี้
“ นอกเหนือจากการลงทุน เรากำลังสร้างความปลอดภัยให้แพลตฟอร์มของเรา เรากำลังลงทุนมากขึ้นในการสร้างประสบการณ์ที่นำผู้คนมารวมกันบนเฟซบุ๊กเป็นสถานที่แรก” ซัคเคอร์เบิร์กกล่าว
อาจจะเร็วเกินไป แต่รายงานเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ชี้ให้เห็นว่า จำนวนการลงโฆษณาไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวฉาวล่าสุดของเฟซบุ๊ก เพราะรายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 50% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งานอยู่ที่ 5.53 ดอลลาร์สหรัฐฯ ดีกว่าตัวเลข 5.35 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการสำรวจของนักวิเคราะห์ StreetAccount
รายงานทางการเงินของเฟซบุ๊กในไตรมาสแรกสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเฟซบุ๊ก แม้จะมีบทความในนิวยอร์กไทม์เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมาชี้ว่า บริษัท Cambridge Analytica อาจเก็บและขายข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานได้ แม้เฟซบุ๊กจะคิดว่า ข้อมูลนั้นถูกลบทิ้งไปแล้วก็ตาม โดยการเปิดเผยข้อมูลถือเป็นการละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปแบบธุรกิจของเฟซบุ๊กที่ตั้งเป้าเรื่องโฆษณา
ในเดือนม.ค.บริษัทแถลงว่า ได้เพิ่มจำนวนพนักงานเพื่อสนับสนุนด้านความปลอดภัยและระบุว่า มีจำนวนผู้ปฏิบัติการประจำเว็บไซต์มากถึง 14,000 คน มากกว่าปีก่อนเกือบสองเท่า ความเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับแพลตฟอร์มในการลดจำนวนเวลาผู้ใช้งานที่ใช้กับโซเชียลเน็ตเวิร์คลงได้ 50 ล้านชั่วโมงต่อวันในหนึ่งไตรมาส หรือราว 5%
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า David Wehner ประธานฝ่ายการเงินกล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะมีรายจ่ายการลงทุนมากถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 475,650 ล้านบาทในปีนี้ และค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น 50 -60% จากการลงทุนด้านความปลอดภัย การจัดหาคอนเทนต์ และนวัตกรรมในระยะยาว
โดยเขาเสริมว่า จำนวนผู้ใช้งานในยุโรปอาจเท่าเดิมหรือลดลงในไตรมาสหน้าจากกฎหมายปกป้องความเป็นส่วนตัวใหม่ของยุโรป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท
เฟซบุ๊กระบุเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ว่า จะซื้อหุ้นคืนเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 285,390 ล้านบาท) หลังจากเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีการซื้อหุ้นคืนจำนวน 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (190,260 ล้านบาท)
“ ปี 2561 นี้จะเป็นปีที่สำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ” ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในการประชุม.