ซัมซุงกำไรเกินคาดไตรมาสแรก
เมื่อวันที่ 6 เม.ย.บริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์รายงานผลกำไรของไตรมาสแรกที่สูงจนน่าประหลาดใจ แต่ตลาดขานรับกับรายงานนี้อย่างเงียบๆ เนื่องจากมีความกังวลเพิ่มขึ้นว่า เซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังบูมและขับเคลื่อนรายได้ของบริษัทให้เติบโตกำลังจะถึงจุดจบ
หุ้นของซัมซุงลดลงหลังจากการประกาศการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ถึงผลกำไรที่เท่ากัน หรือลดต่ำลงในไตมาส 2 จากการเติบโตที่ชะลอตัวลงของราคาชิป DRAM และค่าใช้จ่ายการตลาดที่สูงขึ้นสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่น Galaxy S9
“ แม้กำไรจะลดลงในไตรมาส 2 ซัมซุงจะมีงบดุลที่แข็งแกร่งในปีนี้ ” ซงมยองซุป นักวิเคราะห์ที่ HI Investment & Securities ที่ทำนายว่า ซัพพลายชิป DRAM ที่มีมากจะผลักดันให้ราคาลดลง
โดยซัมซุง ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโลกและคู่แข่งรายใหญ่ของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอย่างแอปเปิล คาดการณ์ผลกำไรเดือนม.ค.-มี.ค. ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 57.6% จากปีก่อน อยู่ที่ 15.6 ล้านล้านวอน หรือราว 460,698 ล้านบาท เอาชนะตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ย 14.5 ล้านล้านวอนจากการสำรวจนักวิเคราะห์ 21 คนของธอมสันรอยเตอร์
ทั้งนี้ ซัมซุงรายงานว่า รายได้ต่อไตรมาสเพิ่มขึ้น 18.7% เป็น 60 ล้านล้านวอน โดยบริษัทไม่ได้ให้รายละเอียดของการดำเนินการเพิ่มเติมและจะเปิดเผยตัวเลขรายได้โดยละเอียดในช่วงปลายเดือนเม.ย.
ราคาหุ้นของชิป NAND ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนเริ่มลดลงในช่วงปลายปี 2560 และนักวิเคราะห์จับตามองอย่างใกล้ชิดถึงสัญญาณของราคา DRAM ที่บูมอยู่เช่นกัน
ถึงแม้การเติบโตของราคา DRAM จะพุ่งขึ้นสูงสุด แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ซัมซุงจะยังคงมีรายได้ประจำปีสูงเป็นประวัติการณ์
“ ถึงแม้ราคาเมมโมรีชิปจะชะลอตัวลงจากที่เคยบูมสูงสุด แต่ราคาที่ต่ำลงอาจช่วยเพิ่มความต้องการชิป และซัมซุงมีความสามารถในการลดค่าใช้จ่ายเพื่อเพิ่มกำไร ” Greg Roh นักวิเคราะห์ที่ HMC Investmant & Securities
ขณะที่ธุรกิจชิปขับเคลื่อนให้ซัมซุงเติบโตมีกำไรอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจสมาร์ทโฟน ซึ่งคิดเป็น 40% ของรายได้ปี 2560 ดูจะยังทำรายได้ดีอย่างน่าประหลาดใจในไตรมาสแรกนี้ อ้างอิงจากนักวิเคราะห์ โดยในเดือนมี.ค. ยอดขายสมาร์ทโฟนรุ่นเก่ายังคงไปได้ดีเนื่องจากผู้บริโภคไม่อยากเสียเงินซื้อรุ่นใหม่ที่มีราคาแพง และบริษัทมีค่าใช้จ่ายลดลงในการทำโฆษณาสมาร์ทโฟน รุ่น S9 ที่เพิ่งเปิดตัวในระยะสั้น
“ ผมคิดว่า ค่าการตลาดของธุรกิจสมาร์ทโฟนช่วยได้มาก เพราะตามปกติแล้ว ไตรมาสแรกจะไม่ใช่ช่วงเวลาบูมของคู่แข่งอย่างแอปเปิล ดังนั้น ซัมซุงจึงไม่ต้องใช้เงินด้านการตลาด ” Claire Kim นักวิเคราะห์ที่ Daishin Securuties
ในปี 2560 ปริมาณยอดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกลดลงเป็นครั้งแรก และซัมซุงมีคู่แข่งรายสำคัญจากจีนอย่างแบรนด์เสี่ยวมี่ที่มีราคาถูกกว่า
ทั้งนี้ ความกังวลเกี่ยวกับตลาดสมาร์ทโฟนและดีมานด์ที่ลดลงของส่วนประกอบอย่างจอ OLCD (ที่ใช้ในไอโฟน X) ส่งผลให้ราคาหุ้นของซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ดิ่งลง 5.3% ในปีนี้ จากที่เคยสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว.