สหรัฐฯเริ่มร่วมซ้อมรบเกาหลีใต้
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. กองทัพสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เริ่มซ้อมรบร่วมกันอย่างไม่เอิกเกริกเนื่องจากบรรยากาศทางการทูตกำลังงอกงามขึ้นจากท่าทีที่ต้องการสันติภาพของเกาหลีเหนือ
ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีมีสัญญาณของความผ่อนคลายลงในช่วงเดือนนี้หลังจากเกาหลีเหนือเสนอให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างทั้งสองเกาหลีและประเทศศัตรูอย่างสหรัฐฯ
โดยการร่วมซ้อมรบ Foal Eagle ประจำปี เป็นการฝึกซ้อมรบภาคสนามที่มีกำลังพลทหารชาวอเมริกัน 11,500 นาย และเกาหลีใต้ 290,000 นาย โดยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 1 เม.ย. โฆษกกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้รายงาน
การซ้อมรบร่วมกัน ซึ่งมีขึ้นล่าช้ากว่าทุกปีเนื่องจากหลบให้กับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเกาหลีใต้ จะใช้เวลานานตลอดทั้งเดือนเม.ย.เท่ากับเวลาของการซ้อมรบที่มีขึ้นทุกปี
ทางกองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า ในปีนี้ การซ้อมรบจะมีฟีเจอร์เกี่ยวกับอาวุธยุทธศาสตร์น้อยลง เช่น เครื่องบินรบที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ โดยการซ้อมรบที่ใช้อาวุธที่ทรงพลังเช่นนั้นเกิดขึ้นในการซ้อมรบครั้งที่ผ่านมาในอดีต ซึ่งก่อให้เกิดการขานรับอย่างโกรธเกรี้ยวไม่พอใจจากทางเกาหลีเหนือ
ประเทศพันธมิตรทั้งสองยังได้จัดให้มีการซ้อมรบ Key Resolve ซึ่งถือเป็นการซ้อมรบสำคัญที่ใช้คอมพิวเตอร์จำลองสถานการณ์จริง เป็นเวลานาน 2 สัปดาห์เริ่มขึ้นช่วงปลายเดือนเม.ย.
ทางเกาหลีเหนือ ซึ่งมักจะมีอาการโวยวายตำหนิเกี่ยวกับการซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ว่าเป็นเหมือนการซ้อมจู่โจม ยังคงเงียบเฉย ไม่มีท่าทีใดๆเกี่ยวกับประเด็นการซ้อมรบในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้
การซ้อมรบ Foal Eagle เริ่มต้นขึ้นในวันเดียวกับการแสดงคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์โดยศิลปินเพลงป๊อปจากเกาหลีใต้ในกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือ ซึ่งจะขึ้นเวทีแสดงในช่วงเย็นของวันที่ 1 เม.ย.เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมสันติภาพ ก่อนที่จะมีการประชุมร่วมกันของสองผู้นำเกาหลีในวันที่ 27 เม.ย.นี้
โดยจะมีการแสดงทั้งหมด 11 ชุด รวมทั้งศิลปินเคป๊อปเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง Red Velvet ซึ่งถือเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกระหว่างทั้งสองเกาหลีในรอบกว่าทศวรรษ
ท่าทีประนีประนอมที่เบ่งบานระหว่างสองเกาหลีเกิดขึ้นหลังจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่พยองชางในเกาหลีใต้ ที่ทางเกาหลีเหนือส่งนักกีฬามาร่วมแข่งขันด้วย รวมถึงคณะเชียร์ลีดเดอร์ และยังมีน้องสาวของประธานาธิบดีคิมจองอึนมาเยือนในฐานะผู้แทนเกาหลีเหนือในพิธีเปิดการแข่งขันอีกด้วย
ในสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีคิมเอง ได้เดินทางไปเข้าพบประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนในกรุงปักกิ่ง ซึ่งถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกของเขาในฐานะผู้นำ และยังได้พบกับ Thomas Bach ประธานโอลิมปิกสากลเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่กรุงเปียงยาง โดย Bach เข้าพบเพื่อขอบคุณผู้นำเกาหลีเหนือที่ช่วยลดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีลง
โดยประธานาธิบดีคิมมีกำหนดจะมีการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีมุนแจอินแห่งเกาหลีใต้ในวันที่ 27 เม.ย.ที่หมู่บ้านปันมุนจอมบริเวณชายแดนประเทศ ซึ่งถือเป็นการพบกันเป็นครั้งที่ 3 ของผู้นำทั้งสองประเทศเกาหลี.