ออกหมายจับอดีตผู้นำเกาหลีใต้
ศาลกรุงโซลอนุมัติหมายจับนายอีมยองบัก อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในข้อหาคอร์รัปชันเมื่อวันที่ 22 มี.ค. สำนักข่าวยอนฮัปรายงาน ไม่กี่วันหลังจากเขาถูกอัยการสอบสวนอย่างยาวนานต่อเนื่องนับสิบชั่วโมง
นายอีมยองบัก วัย 76 ปี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในปี 2551-2556 เป็นอดีตผู้นำเกาหลีใต้คนล่าสุดที่ต้องคดีอาญาและถูกสอบสวนในคดีรับสินบนหลายกรณีเป็นจำนวนหลายล้านดอลลาร์
ทีมอัยการที่ทำสำนวนมีความกังวลว่า นายอีอาจฉวยโอกาสทำลายหลักฐานได้ถ้าไม่ถูกควบคุมตัว สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า หากพบว่าเขากระทำความผิดจริงตามข้อกล่าวหา อาจถูกศาลพิพากษาให้จำคุกนานถึง 45 ปี
ทั้งนี้ นายอีซึ่งปฏิเสธข้อกล่าวหาส่วนใหญ่ จะเป็นอดีตผู้นำเกาหลีใต้ที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นคนที่ 4 ที่ถูกคุมขังในคดีคอร์รัปชัน
โดยข้อกล่าวหาของเขาคือ การที่เขารับสินบนจากบริษัทซัมซุงกรุ๊ปในปี 2552 เพื่อขออภัยโทษให้กับนายอีคุนฮี ประธานบริษัท ซึ่งกระทำความผิดในคดีเลี่ยงภาษีและงดเว้นโทษจำคุกให้เขา
นอกจากนี้ เขายังถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจำนวนหลายล้านดอลลาร์จากอดีตซีอีโอของกลุ่มธนาคารของภาครัฐ เพื่อช่วยให้เขาได้รับตำแหน่งในธนาคาร
นายอีมยองบัก ซึ่งเป็นนักธุรกิจก่อนที่จะมาเป็นนักการเมืองยังถูกกล่าวหาว่า รับเงินจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในกองทุนที่ไม่ลงบัญชีจากสำนักข่าวกรอง และยักยอกเงินหลายล้านดอลลาร์จากบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งเขาเป็นเจ้าของในชื่อของญาติ
โดยนายอี อดีตผู้นำสายอนุรักษ์นิยมผู้นี้ ประณามว่าการที่เขาถูกสอบสวนและตั้งข้อหาทั้งหมดเป็น ‘การแก้แค้นทางการเมือง’ จากศัตรูของเขา
ไม่น่าเชื่อว่า อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ทั้งสี่คนซึ่งยังมีชีวิตอยู่ล้วนแต่ถูกตัดสินให้ต้องโทษ ถูกตั้งข้อหา หรือ ถูกสอบสวนในคดีอาญาทั้งสิ้น
อดีตประธานาธิบดีพัคกึนฮเย ซึ่งเข้ารับตำแหน่งต่อจากเขากำลังถุกควบคุมตัวในเรือนจำในข้อหารับสินบน หลังจากถูกถอดถอนในปีที่แล้วจากข่าวฉาวที่เธอพัวพันกับการคอร์รัปชัน โดยอัยการได้เสนอโทษจำคุกเธอเป็นเวลา 30 ปี
อดีตประธานาธิบดีชอนดูฮวาน และโนแทอู ซึ่งเป็นอดีตนายพลในช่วงปี 2523 – 2531 ถูกศาลพิพากษาจำคุกในช่วงปี 2533 ในคดีคอร์รัปชัน และเป็นกบฎ หลังจากลงจากตำแหน่ง
โดยทั้งนายชอนและนายโอได้รับการอภัยโทษจากอดีตประธานาธิบดีหลังจากพวกเขาถูกจำคุกอยู่นานประมาณสองปี.