หุ้นเฟซบุ๊กร่วงหลังข้อมูลรั่ว
หุ้นของบริษัทเฟซบุ๊กร่วงในช่วงแรกของการซื้อขายเมื่อวันที่ 19 มี.ค. เนื่องจากทางการสหรัฐฯและยุโรปต้องการคำตอบเกี่ยวกับบริษัทที่ลงโฆษณาการเมืองเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กนับล้านรายโดยไม่ได้รับความยินยอม
นักการเมืองทั้งจากสหรัฐฯ และยุโรปเรียกร้องให้ซีอีโอมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กปรากฏตัวต่อหน้าส.ส.เพื่ออธิบายว่า บริษัท Cambridge Analytica ซึ่งมีฐานอยู่ในสหราชอาณาจักรและเป็นบริษัทข้อมูลโฆษณาที่ช่วยให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กได้อย่างไร
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กได้เข้าให้การเกี่ยวกับการที่แพลตฟอร์มถูกใช้โดยนักวางแผนโฆษณาชวนเชื่อจากรัสเซียก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯในปี 2559 แต่บริษัทไม่เคยให้ซัคเคอร์เบิร์กปรากฎตัวเป็นจุดสนใจร่วมกับผู้นำรัฐบาลเลย แรงกดดันที่เกิดขึ้นนี้อาจทำให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้นกับโซเชียลมีเดีย
โดยหุ้นของเฟซบุ๊กร่วงลงถึง 4.2% ในระหว่างการซื้อขายล่วงหน้าในนิวยอร์ค
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.เฟซบุ๊กแถลงว่า มีอาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่งใช้เฟซบุ๊กเพื่อให้คนเข้ามาลงทะเบียนในแอปพลิเคชันวิเคราะห์บุคลิกที่คิดค้นมาเพื่อวัตุประสงค์ด้านการศึกษา เพื่อทำการทดสอบ ผู้ใช้งาน 270,000 รายอนุญาตให้แอปนี้เข้าถึงข้อมูลของพวกเขาผ่านเฟซบุ๊กและเพื่อนๆ ซึ่งจะกลายเป็นโครงข่ายที่เชื่อมโยงคนมากถึง 50 ล้านคน อ้างอิงจากสื่อนิวยอร์คไทม์ การเข้าถึงข้อมูลในลักษณะนี้ยังไม่เป็นการละเมิดกฎของเฟซบุ๊กในขณะนั้น แต่ต่อมา อาจารย์คนนี้กลับส่งต่อข้อมูลไปให้กับบริษัท Cambridge Analytica
เมื่อเฟซบุ๊กพบการรั่วไหลของข้อมูลในปี 2558 จึงปิดการเข้าถึงของอาจารย์และสอบถามไปทาง Cambridge Analytica เพื่อตรวจสอบว่าได้ลบข้อมูลผู้ใช้งานไปแล้ว เมื่อวันที่ 16 มี.ค.เฟซบุ๊กได้ระงับบริษัทออกจากการใช้งานในระบบ เนื่องจากบริษัทยังไม่ได้ลบข้อมูล ทั้งนี้ บริษัท Cambridge ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยนาย Robert Mercer ผู้บริจาคที่มีแนวคิดทางการเมืองสายอนุรักษ์นิยม ออกมาปฏิเสธเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ว่า ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานได้ และระบุว่า ที่ผ่านมาทำงานร่วมกับเฟซบุ๊กในการแก้ไขปัญหา
โดยนักวิจัยซึ่งทำงานร่วมกับอาจารย์ในแอปพลิเคชันนี้ ปัจจุบันเป็นพนักงานที่เฟซบุ๊ก ซึ่งกำลังถูกพิจารณาเรื่องที่เขารู้เรื่องข้อมูลรั่ว
Damian Collins ส.ส.อังกฤษระบุเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ว่า ซัคเคอร์เบิร์ก หรือผู้บริหารระดับสูงคนอื่นของเฟซบุ๊กควรมาปรากฎตัวเพื่อให้ปากคำต่อหน้าคณะกรรมการ เพราะพยานก่อนหน้านี้เลี่ยงที่จะตอบคำถามยากๆ โดยเขาให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ว่า ซัคเคอร์เบิร์กควรหยุดแอบซ่อนอยู่หลังเพจเฟซบุ๊กและออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับบริษัทของเขาได้แล้ว
ในอีก 2 – 3 สัปดาห์หน้า จะเป็นช่วงเวลาของการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเฟซบุ๊กจะสามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นทั้งของผู้ใช้งานและหน่วยงานที่กำกับดูแลเกี่ยวมาตรฐานคอนเทนต์และความปลอดภัยของแพลตฟอร์มได้หรือไม่ เพื่อคุ้มกฎที่สามารถส่งผลกระทบต่อธุรกิจโฆษณาหลักของบริษัท อ้างอิงจากความเห็นของ Daniel Ives นักวิเคราะห์ที่ GBH Insights.