ยูไนเต็ดแอร์ไลน์เหมาเจ็ทส่วนตัวส่งสุนัขกลับบ้าน

สายการบินยูไนเต็ดได้เหมาลำเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เพื่อส่งสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดที่ถูกส่งผิดไปยังกรุงโตเกียวเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมากลับบ้าน
ภายหลังจากที่มีกระแสโวยเกี่ยวกับการตายของสุนัขพันธุ์เฟรนช์บูลด็อกของผู้โดยสารสายการบินยูไนเต็ดมาเป็นเวลาหลายวัน ทางสายการบินได้แสดงท่าทีที่จะส่งตัวสุนัขชื่อเออร์โก วัย 10 ปี กลับบ้านที่เมืองแคนซัสซิตี รัฐมิสซูรี อย่างรวดเร็ว
โดยสุนัขที่ตายไปเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา มีชื่อว่าโคคิโต ถูกนำไปเก็บไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะหลังจากที่มีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินยืนกรานว่าต้องนำสุนัขเก็บไว้ในพื้นที่ดังกล่าว
เออร์โก ถูกส่งตัวกลับเพื่อพบกับครอบครัวอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว อ้างอิงจากโพสต์ของคารา สวินเดิล เจ้าของสุนัขตัวดังกล่าว โดยเธอได้โพสต์คลิปวิดีโอเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ซึ่งเผยให้เห็นภาพสุนัขเออร์โกแสดงอาการต้อนรับครอบครัวของมันด้วยการกระดิกหางอย่างตื่นเต้นเต็มเปี่ยม พร้อมทั้งกระโดดเพื่อเลียหน้าของพวกเขา ซึ่งทางคารา สวินเดิล ได้เพิ่มสนามบินวิชิต้าเป็นสถานที่บนโพสต์ นอกจากนี้เธอยังโพสต์ภาพของเออร์โกบนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว พร้อมกับลูกเรือบนเที่ยวบินอีกด้วย
สุนัขเออร์โกถูกส่งตัวอย่างผิดพลาดไปยังประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่คารากลับพบสุนัขพันธุ์เกรดเดนอีกตัว ซึ่งจำเป็นต้องถูกส่งตัวไปยังกรุงโตเกียวแทนที่จะเป็นเจ้าเออร์โก
ทางสายการบินยูไนเต็ดได้ปฏิเสธที่จะระบุถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการส่งตัวเจ้าเออร์โกกลับบ้าน แต่ทางเฮนรี ฮาร์เทอเวลด์ท์ ผู้ก่อตั้งบริษัทให้คำปรึกษาด้านการท่องเที่ยว หรือ แอตโมสเฟีย รีเสิร์ช กรุ๊ป ระบุว่า ไม่ว่าจะเสียค่าใช้จ่ายไปทั้งหมดเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่ามันยังน้อยมากนักเมื่อเทียบกับการชดใช้หลังการตายของเจ้าโคคิโต
เขาระบุว่า “มันถือว่าเป็นเพียงเงินเพนนี(เศษเงิน)ที่พยายามจะหยุดข่าวคราวทั้งหมด”
กระทรวงคมนาคมระบุว่า ทางกระทรวงกำลังตรวจสอบเกี่ยวกับการตายของโคคิโต ด้านวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ 2 ราย ได้เสนอเกี่ยวกับการแบนไม่ให้นำสุนัขเก็บไว้ในช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ ซึ่งข้อบังคับที่มีการนำเสนอในครั้งนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Welfare of our Furry Friends หรือ WOOFF
การเสนอข้อห้ามในครั้งนี้ถูกนำมาพิจารณา แม้ว่าเหล่าพนักงานต้อนรับของสายการบินยูไนเต็ดและสายการบินอื่น ๆ จะถูกฝึกมาเพื่อแนะนำให้ผู้โดยสารนำสัตว์เลี้ยงไว้ที่เก็บของใต้เบาะด้านหน้าของตนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีเรื่องราวที่สร้างชื่อเสียให้กับทางสายการบินยูไนเต็ด นับตั้งแต่ในปีก่อนที่มีการใช้กำลังเพื่อนำตัวผู้โดยสารออกจากเครื่องบิน รวมกระทั่งเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางนักลงทุนกลับไม่ได้รู้สึกไม่พอใจมากนัก ทำให้หุ้นของบริษัทนั้นลดลงเพียง 0.6% ในตอนกลางวันของวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา.