เฟซบุ๊กแบนกลุ่มขวาจัด’Britain First’
เฟซบุ๊กประกาศแบนกลุ่มการเมืองฝ่ายขวาจัด Britain First ที่ละเมิดกฎของบริษัทที่ห้ามไม่ให้โพสต์ข้อความที่สร้างความเกลียดชังบนโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่รายนี้
โดยเพจทางการของกลุ่มองค์กรนี้บนเฟซบุ๊กถูกลบออกไป รวมทั้งเพจของผู้นำกลุ่ม Britain First คือ Paul Golding และ Jayda Fransen ด้วย ขณะที่เฟซบุ๊กระบุว่า กลุ่มคนพวกนี้โพสต์คอนเทนต์ที่มีแต่ความเกลียดชังต่อชนกลุ่มน้อยอยู่ตลอดเวลา
“มีหลายครั้ง ที่การกล่าวสุนทรพจน์ทางการเมืองล้ำเส้นไป และกลายเป็นสาส์นที่สร้างความเกลียดชัง ที่ถูกคิดค้นมาเพื่อสร้างให้เกิดแรงกระเพื่อมไปถึงหลายกลุ่มในสังคมของเรา” เฟซบุ๊กระบุในแถลงการณ์
ในปี 2560 กลุ่ม Britain First ได้รับความสนใจจากนานาประเทศ เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รีทวีตคลิปวีดีโอที่ก่อให้เกิดความไม่พอใจ ซึ่ง Fransen โพสต์บนทวิตเตอร์ถึง 3 คลิป ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสรุนแรงทางการเมืองที่กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บัญชีผู้ใช้งานของกลุ่มหัวรุนแรงนี้ถูกทวิตเตอร์ระงับในเวลาต่อมาเช่นกัน
ผู้นำการเมืองและเจ้าของแบรนด์สินค้าซึ่งเป็นผู้ลงโฆษณารายใหญ่ กำลังกดดันบริษัทโซเชียลมีเดียมากขึ้น เพื่อให้กำจัดคอนเทนต์ที่น่ารังเกียจและผิดกฎหมายออกจากแพลตฟอร์มของพวกเขา
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊กกล่าวว่า ความท้าทายส่วนตัวของเขาในปี 2561 คือ การป้องกันเฟซบุ๊กจากการถูกใช้เป็นเครื่องมือที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่บัญชีผู้ใช้งานนับพันล้าน และกับสังคมในวงกว้าง
“เราเป็นแพลตฟอร์มเปิดสำหรับทุกไอเดีย และสุนทรพจน์ทางการเมืองที่เข้าไปถึงหัวใจของการแสดงออกอย่างอิสระเสรี” บริษัทระบุเมื่อวันที่ 14 มี.ค. “ แต่มุมมองทางการเมืองสามารถแสดงออกได้โดยปราศจากความเกลียดชัง”
กลุ่ม Britain First บรรยายตัวเองว่าเป็นกลุ่มรักชาติที่ยืนหยัดเป็นด่านหน้าเพื่อช่วยประชาชนของเราที่ทนทุกข์ทรมานมานาน ซึ่งจะฟื้นฟูความเป็นคริสเตียนให้เป็นรากฐานสำคัญของชีวิตคนในชาติ และส่งเสริมแรงงานในสหราชอาณาจักรก่อนเป็นลำดับแรก แต่กลุ่มนี้กลับเป็นกลุ่มการเมืองที่แทบจะอยู่ชายขอบของการเมืองในสหราชอาณาจักร
กลุ่ม Britain First ไม่มีผู้แทนที่ได้รับการเลือกตั้งในทุกระดับของการเมืองในสหราชอาณาจักร และมีการจดทะเบียนเลิกพรรคการเมืองโดยคณะกรรมการการเลือกตั้งในสหราชอาณาจักร โดยกลุ่มนี้มีการประท้วงเป็นบางโอกาสที่แทบจะไม่เคยดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้มากกว่า 30 – 40 คนเลย.
