อดีตผู้นำโสมขาว ‘อีมยองบัก’ ถูกสอบทุจริต

อีมยองบัก อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้เข้ารายงานตัวต่ออัยการในการไต่สวนคดีคอร์รัปชันเมื่อวันที่ 14 มี.ค. และกล่าวขออภัยสำหรับการโต้เถียงอย่างรุนแรงของเขา
ข้อกล่าวหาที่ว่า ญาติและผู้ช่วยของนายอีมยองบักในวัย 76 ปีพัวพันกับการทุจริตในระหว่างวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาในปี 2551 – 2556 ถูกเผยแพร่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ เนื่องจากอัยการกำลังสอบสวนคดีรับสินบนหลายคดีที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์
การสอบสวนนายอีมยองบัก อดีตผู้นำเกาหลีใต้ในคดีล่าสุด ทำให้เขาเข้าไปรวมอยู่ในรายชื่ออดีตประธานาธิบดีที่ยังมีชีวิตอยู่ของเกาหลีใต้ กลายเป็น 4 รายแล้ว ที่ถูกทางการสอบสวน ถูกตั้งข้อหา หรือพัวพันกับคดีอาญา
“ ผมยืนอยู่ตรงนี้ด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ” นายอีกล่าวเมื่อเขามาถึงสำนักงานอัยการในกรุงโซล หลังจากการขับรถจากบ้านของเขาทางตอนใต้ของกรุงโซลมาที่นี่ถูกถ่ายทอดสดบนข่าวโทรทัศน์
“ ผมเสียใจมากที่ก่อให้เกิดความกังวลกับประชาชน” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยเสริมว่า ความเป็นอยู่ของชาวเกาหลีใต้ และสถานการณ์ความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีนั้นเลวร้ายมาก
นายอี พร้อมกับทนายความส่วนตัว ได้รับการรับรองจากอัยการอาวุโสและดื่มชาก่อนที่จะเข้าไปในห้องสอบสวนเบอร์ 1001 ซึ่งเป็นห้องเดียวกับที่อดีตประธานาธิบดีพัคกึนฮเยถูกสอบสวนอย่างมาราธอน
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า เขาจะถูกซักถามโดยอัยการ 3 คน( ซึ่งมีการบันทึกเทปไว้ด้วย ) ที่คาดว่าจะยาวนานประมาณ 20 ชั่วโมง อัยการเตรียมเอกสารในการซักถามไว้ประมาณ 120 หน้า ที่เกี่ยวข้องกับความผิดที่ถูกกล่าวหาประมาณ 20 กระทง
“ เราจะปฏิบัติต่ออดีตประธานาธิบดีอย่างสมศักดิ์ศรี แต่เราจะทำหน้าที่อย่างโปร่งใส” อัยการอาวุโสกล่าวกับผู้สื่อข่าว
คาดการณ์ว่านายอีจะกลับบ้านหลังถูกสอบสวน แต่อัยการมีแนวโน้มจะขอให้ศาลอนุมัติหมายจับเขาต่อจากนั้น
อดีตผู้ช่วยของเขา 2 คนถูกจับกุมเพื่อนำตัวมาสอบสวน และมีการบุกเข้าตรวจค้นบ้านและสำนักงานของน้องชายของเขาด้วย
ก่อนหน้านี้ เขาเคยประกาศว่า คดีนี้เป็นการแก้แค้นทางการเมือง และกล่าวเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ว่า เขาหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์ที่อดีตผู้นำของเกาหลีใต้จะถูกสอบสวนจากอัยการ
“ ในฐานะอดีตประธานาธิบดี ผมมีหลายเรื่องที่อยากจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ผมจะขอสงวนคำพูดไว้ก่อน” เขากล่าว
อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้มีแนวโน้มที่จะมีจุดจบในเรือนจำ หรือมีจุดจบที่เลวร้ายอย่างสุดขั้ว หลังจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง เมื่อคู่แข่งทางการเมืองของพวกเขาได้เข้าไปรับตำแหน่งในทำเนียบประธานาธิบดีในเวลาต่อมา
ก่อนหน้านายอี คืออดีตประธานาธิบดีเสรีนิยม – โรมูฮยอน ตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดหน้าผา หลังจากเขาถูกสอบสวนในคดีคอร์รัปชันในปี 2552
หลังจากเกาหลีใต้เป็นประเทศประชาธิปไตยเต็มใบในช่วงปี 2530 อดีตผู้นำเผด็จการ ชุนดูฮวาน และโรแทวู ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนของเขาและผู้นำประเทศคนต่อมา ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต เนื่องจากพวกเขาพัวพันกับการรัฐประหารในปี 2520 และรับสินบนจากภาคธุรกิจจำนวนหลายร้อยล้านดอลลาร์.