โอบามาคุยเน็ตฟลิกซ์ทำรายการใหม่
อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ และภริยาของเขา มิเชล โอบามา กำลังอยู่ในระหว่างการพุดคุยเพื่อผลิตรายการใหม่ให้กับทางเน็ตฟลิกซ์ อ้างอิงจากการรายงานของสื่อนิวยอร์กไทม์
อดีตคู่สามีภรรยาหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ จะสร้างสรรค์คอนเทนต์สุดพิเศษให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่สตรีมมิงอย่างเน็ตฟลิกซ์ โดยมุ่งเน้นที่จะทำให้เป็นเรื่องราวที่อิ่มใจและเบิกบานใจ
หากมีการยืนยัน ดีลการตกลงนี้จะทำให้โอบามามีแพลตฟอร์มที่ใช้กันทั่วโลกเพื่อสื่อสาร โดยทางเน็ตฟลิกซ์กล่าวกับสื่อ BBC ว่า ยังไม่มีความเห็นเกี่ยวกับรายงานนี้ และเคที ฮิลล์ โฆษกหญิงของโอบามาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในประเด็นนี้เช่นกัน
Eric Schultz ที่ปรึกษาอาวุโสของอดีตประธานาธิบดีโอบามา ยังไม่ยืนยันถึงแผนการนี้ แต่ระบุว่าเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้และสมเหตุสมผล
“ ประธานาธิบดีโอบามาและภริยาเชื่อเสมอถึงพลังในการเล่าเรื่องเพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่น ”
“ ผ่านประสบการณ์ชีวิตของทั้งสองคน พวกเขาจะเล่าถึงชีวิตของผู้คนซึ่งพยายามที่จะสร้างความแตกต่างเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น เมื่อพวกเขาได้พิจารณาทบทวนแผนการส่วนตัวในอนาคต พวกเขาค้นพบหนทางใหม่ๆ ที่จะช่วยผู้อื่นด้วยการสร้างสรรค์การเล่าเรื่องและแชร์เรื่องราวของพวกเขา ”
สื่อนิวยอร์กไทม์รายงานว่า ไอเดียหนึ่งของรายการที่อาจเป็นไปได้คือ การที่โอบามาจะดีเบตในประเด็นต่างๆ อย่างเป็นกลาง เช่น ประกันสุขภาพ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการอพยพ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นประเด็นสำคัญในช่วงเวลา 8 ปีที่เขาตำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในทำเนียบขาว
แต่ในรายงานข่าวระบุว่า เขาและเน็ตฟลิกซ์ไม่มีแผนที่จะใช้รายการนี้เพื่อเป็นเครื่องมือโจมตีกลุ่มนักวิจารณ์หัวอนุรักษ์นิยม หรือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ บริการสตรีมมิงของเน็ตฟลิกซ์เป็นการผสมผสานกันทั้งซีรีส์ที่เน็ตฟลิกส์ผลิตเอง ภาพยนตร์ และโปรแกรมอื่นๆที่ทำให้เน็ตฟลิกซ์ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ด้วยจำนวนสมาชิกเกือบ 118 ล้านคนในช่วงสิ้นปี 2560 ที่ผ่านมา ยังไม่ชัดเจนว่า อดีตผู้นำสหรัฐฯ จะได้รับค่าตอบแทนจากข้อตกลงครั้งนี้เป็นจำนวนเท่าไร
ที่ผ่านมา โอบามามีการเชื่อมต่อโดยตรงกับกลุ่มผู้ที่นิยมชมชอบเขาบนโซเชียลมีเดียมากอยู่แล้ว โดยเขามีผู้ติดตามบนทวิตเตอร์กว่า 100 ล้านคน และเพจเฟซบุ๊กของเขามียอดไลค์จากผู้ใช้งานถึง 55 ล้านคน
หุ้นของเน็ตฟลิกซ์ทะยานขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังจากมีการรายงานข่าวนี้ โดยสามารถพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 326.74 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนที่จะปรับตัวลงมาอยู่ที่ 326.07 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อขายช่วงบ่าย เพิ่มขึ้นมาเกือบ 3%.