แอปเปิลสอบพบปัญหาซัพพลายเออร์
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. บริษัทแอปเปิลระบุว่า บริษัทพบการละเมิดนโยบายสำหรับซัพพลายเออร์ ทั้งในด้านแรงงานและสภาพแวดล้อม รวมถึงการให้แรงงานทำงานเกินชั่วโมงที่กำหนด เนื่องจากบริษัทขยายกรอบการตรวจสอบประจำปีของแรงงานที่ผลิตไอโฟน X และผลิตภัณฑ์อื่นๆ
แอปเปิลเป็นหนึ่งในเชนผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่ส่วนใหญ่แล้ว งานการผลิตสินค้าทั้งหมดอยู่ในโรงงานของผู้รับเหมาที่รับจ้างผลิตให้แอปเปิลตามสัญญาว่าจ้าง
โดยแอปเปิลดำเนินการตรวจสอบซัพพลายเออร์ทั้งหมด 756 แห่งใน 30 ประเทศ และมี 197 แห่งที่เพิ่งถูกตรวจสอบเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ บริษัทระบุในรายงานความรับผิดชอบของซัพพลายเออร์ประจำปีว่า สัดส่วนของ ‘ผู้มีประสิทธิภาพต่ำ’ หรือซัพพลายเออร์ที่ได้คะแนนน้อยกว่า 59 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 ลดลงเหลือ 1% ในปี 2560 จากเดิม 3% ในปี 2559 และ 14% ในปี 2557 ขณะที่ซัพพลายเออร์ ‘ผู้มีประสิทธิภาพสูง’ ที่ได้คะแนนมากกว่า 90 คะแนน เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์มาอยู่ที่ 59% จากเดิม 47% ในปีก่อน
บริษัทพบซัพพลายเออร์ 44 แห่งที่ละเมิดกฎข้อบังคับด้านแรงงานในปี 2560 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปี 2559 โดยยังรวมถึงแรงงานในโรงงาน 3 แห่งที่ถูกบีบให้จ่ายเงินเพื่อจะได้ทำงานในโรงงาน ซึ่งเป็นการกระทำที่แอปเปิลห้ามในปี 2558
โดยในกรณีหนึ่ง มีแรงงานต่างชาติตามสัญญาจ้างมากกว่า 700 คนในฟิลิปปินส์ถูกบีบบังคับให้จ่ายเงินรวมกันทั้งหมดมากถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 31.5 ล้านบาท เพื่อจะได้ทำงานให้ซัพพลายเออร์รายนี้ โดยแอปเปิลบังคับให้ซัพพลายเออร์ต้องจ่ายเงินจำนวนนี้คืนให้กับแรงงานทั้งหมด
ขณะที่ซัพพลายเออร์ที่ให้แรงงานทำงาน 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ลดลงเหลือ 94% จากเดิม 98% ในปี 2559 นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดเผยถึง 38 กรณีของการปลอมแปลงข้อมูลชั่วโมงการทำงานในปี 2560 เพิ่มขึ้นจาก 9 กรณีในปี 2559
แอปเปิลระบุว่า จำนวนปัญหาที่เพิ่มขึ้นมาจากความจริงที่ว่า บริษัทได้เพิ่มจำนวนซัพพลายเออร์รายใหม่ในปีที่แล้ว และเริ่มชั่วโมงการทำงานด้วยตัวเลขแรงงานทั้งหมดของซัพพลายเออร์ถึง 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 30% จากปีก่อน
ในรายงาน แอปเปิลยังระบุว่า ได้ริเริ่มโครงการด้านสุขภาพแรงงานหญิงในโรงงานของซัพพลายเออร์ โดยตั้งเป้าจะให้ถึงแรงงานหญิง 1 ล้านคนในปี 2563 นอกจากนี้ ยังได้ออกโปรแกรมการฝึกอบรมแรงงานในจีนให้กลายเป็นหัวหน้าแรงงานในโรงงาน ซึ่งจะได้ค่าจ้างเพิ่มขึ้น 20 – 30% เมื่อเทียบกับแรงงานในไลน์การผลิตทั่วไป
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. แอปเปิลยังได้เผยแพร่รายงานผลประโยชน์ด้านทรัพยากร ซึ่งกำหนดโดยคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ โดยในรายงานมีรายชื่อของซัพพลายเออร์ด้านโลหะที่มีความอ่อนไหว เช่น ดีบุก และทองคำ
ทั้งนี้ บริษัทระบุว่า มีโรงหลอมและโรงกลั่น 16 แห่งที่ออกจากซัพพลายเชนของบริษัทในปี 2560 โดย 10 แห่งออกไปเพราะไม่เข้าร่วมในการตรวจสอบจากบุคคลที่ 3 และอีก 6 แห่งออกไปจากข้อตกลงของซัพพลายเออร์เหล่านั้นเอง
แอปเปิลยังได้กำหนดกฎข้อบังคับใหม่สำหรับแรงงานที่เป็นนักเรียนนักศึกษา หลังจากตรวจสอบพบว่า นักศึกษาจีนบางรายต้องทำงานมากกว่า 11 ชั่วโมงต่อวันในการประกอบชิ้นส่วนไอโฟน X.