“บิล เกตส์”ชี้เงินดิจิทัลกำลังฆ่าคน
บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ไมโครซอฟต์ระบุว่า การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลกำลังฆ่าคนด้วยวิธีที่เป็นธรรมโดยตรง โดยเขาได้อ้างถึงวิธีที่เงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์ถูกใช้เพื่อซื้อยาระงับปวดที่จัดเป็นสารเสพติดให้โทษ
บนเว็บไซต์ Reddit ในส่วนคอลัมน์ ‘ ask me anything ’ เขากล่าวว่า การซื้อขายเงินดิจิทัลแบบไม่เปิดเผยชื่อหมายความว่า อาจมีส่วนเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกองทุนของผู้ก่อการร้าย และการฟอกเงินได้
อย่างไรก็ตาม หลายคนวิจารณ์บิล เกตส์ โดยให้ความเห็นว่า เขาได้รับข้อมูลมาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้
โดยเมื่อถูกถามจากผู้ใช้งานรายหนึ่งให้เขาออกความเห็นเกี่ยวกับเงินดิจิทัล เกตส์ตอบว่า “ ฟีเจอร์หลักของเงินดิจิทัลคือการไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งอย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี ความสามารถของรัฐบาลที่จะค้นพบการฟอกเงินและการหลบเลี่ยงภาษี หรือกองทุนสนับสนุนผู้ก่อการร้ายต่างหากที่เป็นเรื่องดี ”
“ ปัจจุบันนี้ เงินดิจิทัลถูกใช้เพื่อซื้อยาเสพติดในบางกรณี ดังนั้น มันจึงเป็นเทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตด้วยวิธีที่เป็นธรรมโดยตรง ผมคิดว่า การเก็งกำไรใน ICOs หรือการเปิดขายเงินดิจิทัล หรือเงินดิจิทัลเองเป็นเรื่องเสี่ยงมากสำหรับคนที่ถือครองในระยะยาว ”
นักลงทุนมือเก๋าอย่างมหาเศรษฐีวอร์เรน บัฟเฟตต์เคยออกมาพูดก่อนหน้านี้เช่นกันว่า การเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่งในเงินดิจิทัลจะจบลงแบบไม่สวยนัก
ที่จริงแล้ว บิล เกตส์เองก็ไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามบิตคอยน์อยู่ตลอดเวลา เพราะในปี 2557 ในการให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กทีวี เขาได้กล่าวไว้ว่าบิตคอยน์นั้นดีกว่าสกุลเงินตามปกติ
มีผู้ที่แสดงความเห็นตรงข้ามกับเขาจำนวนมาก ทำให้เหมือนเป็นการดีเบตกันบนเว็บไซต์ Reddit บางคนตำหนิเขาว่าพยายามจะใช้อิทธิพลชี้นำตลาด ขณะที่คนอื่นๆ มองว่า เขาอาจต้องการที่จะหันมามองบิตคอยน์อีกเมื่อมีการรับรองบิตคอยน์อย่างถูกต้อง
ในการแชทกันอย่างกว้างขวางบน Reddit มหาเศรษฐีที่ครองอันดับ 1 ของโลกมาหลายปีกล่าวกับผู้ฟังว่า เป้าหมายสูงสุด 3 อย่างของเขาคือ ลดจำนวนเด็กเสียชีวิต โภชนาการบกพร่องในเด็ก และการหยุดยั้งโปลิโอ
โดยบิล เกตส์ ยังดำรงตำแหน่งประธานร่วมของมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ ซึ่งบริจาคเงินจำนวนนับพันล้านดอลลาร์ในแต่ละปีให้กับการศึกษาและโครงการสาธารณสุข
มูลนิธิของพวกเขายังให้การสนับสนุนการพัฒนาบล็อคเชน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สนับสนุนเงินดิจิทัล สำหรับพ่อค้าในเคนยา ขณะที่ไมโครซอฟต์เองก็มองหาการบูรณาการเทคโนโลยีบล็อคเชนเพื่อตรวจสอบอัตลักษณ์ทางดิจิทัล
ทั้งนี้ มูลค่าที่พุ่งทะยานขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลทำให้รัฐบาลทั่วโลกต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจและพลเมือง
ขณะที่ความสำคัญของเทคโนโลยีนี้ได้รับการชื่นชมอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็มีความกังวลมากมายว่า อาจจะทำให้เศรษฐกิจปั่นป่วน หรือถ้าไม่งั้นก็เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมไซเบอร์และการฟอกเงิน
คณะกรรมการการคลังของสหราชอาณาจักรกำลังทำการสืบสวนเรื่อง ผลกระทบของเงินดิจิทัลเหล่านี้.